#ARROW #ทันหุ้น - ARROW สบช่องขยายไลน์ธุรกิจโรงเรือนเกษตรอัจฉริยะแบบครบวงจร คาดลงตลาดในไตรมาส 3 นี้ เชื่อกระแสตอบรับท่วมท้น ตั้งเป้ากวาดรายได้สินค้ากลุ่มโรงเรือนปีแรก 20 ล้านบาท ฟากโบรกชี้ผลงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว คาดปีนี้กลับมาฟื้นตัวเร็ว แนะ “ซื้อ” เคาะเป้า 9.80 บาท

นายธานินทร์  ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ ARROW เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทมีโครงการในอนาคต ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตั้ง โซลาร์รูฟท็อป เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้าของบริษัทเอง โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งโครงการนี้ใช้งบลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2565 นี้ และน่าจะสามารถคืนทุนได้ในช่วง 7-8 ปี

***ขยายธุรกิจโรงเรือน

นอกจากนี้บริษัทได้ขยายตลาดไปยังผลิตภัณฑ์ท่อเหล็กที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ซึ่งได้เพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทย่อยเพื่อลงทุนทำโรงเรือนเกษตรแบบครบวงจร โดยวางงบลงทุนเบื้องต้น 10 ล้านบาท

อีกทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาโรงเรือนอัจฉริยะซึ่งใช้ซอฟต์แวร์ต่างๆ เข้ามาช่วยควบคุม โดยคาดว่าจะออกสู่ตลาดได้ในช่วงไตรมาสที่ 3/2565 ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยตั้งเป้ารายได้จากการจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โรงเรือนราว 20 ล้านบาท ซึ่งหวังว่าจะเข้ามาชดเชยรายได้จากกลุ่มงานรับเหมาที่หดหายไป

ขณะที่ปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ราว 1,200 ล้านบาท จากปีก่อนที่บริษัทมีรายได้ 1,089.87 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทตุนงานในมือ (Backlog) ที่ 1,000 ล้านบาท สำหรับธุรกิจก่อสร้างในปัจจุบัน ยังไม่ขยับตัวขึ้น เนื่องจากยังมีสถานการณ์ โควิด-19 รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจ บริษัทจึงหันไปให้ความสำคัญกับงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ งานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ยังเป็นโครงการที่บริษัทต้องติดตาม

** บริหารต้นทุนวัตถุดิบ

สำหรับการลดต้นทุนที่ในช่วงที่ผ่านมามีการผันผวนค่อนข้างมาก บริษัทยังมุ่งเน้นในเรื่องของการบริหารต้นทุนวัตถุดิบ และควบคุมราคาวัตถุดิบ ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ทำการสั่งซื้อวัตถุดิบล่วงหน้า 5-6 เดือน ซึ่งหากราคาวัตถุดิบมีความผันผวน บริษัทจะทำการหยุดซื้อแต่ยังมีวัตถุดิบใช้งานได้ในระยะเวลา 2 ไตรมาส

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุว่า บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ ARROW คาดว่าผลประกอบการในปี 2565 จะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2564 หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายดีขึ้น ส่งผลให้งานโครงการต่างๆ กลับมาดำเนินกิจการได้

ประกอบกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐบาล คาดว่าจะออกมามากกว่า 3 แสนล้านบาท อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ โครงการสนามบิน โครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน

** แบ็กล็อก 1 พันล.

โดย ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมียอด Backlog กว่า 1,000 ล้านบาท ที่จะทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 2564 และต่อเนื่องในปี 2565 ในส่วนของราคาวัตถุดิบเหล็กมีการปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับบริษัทได้มีการปรับราคาขายขึ้นราว 10-15% เพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

ทางฝ่ายประมาณการรายได้ปี 2565 ที่ระดับ 1,210.6 ล้านบาท พร้อมคาดกำไรสุทธิที่ 156.1 ล้านบาท

คงคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 2565 เท่ากับ 9.80 บาท โดยคาดว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และประเมินราคาเหมาะสมอิง PER ที่ 16 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี) ยังมี Upside จากราคาปัจจุบันราว 18.1% พร้อมคาด Dividend Yield ราว 5.4%

รู้ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ได้ทุกช่องทางเหล่านี้ 

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/ 

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA 

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_ 

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA 

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7 

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5 

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1