#MST #ทันหุ้น – MST ประเมินผลงานปี 2565 เติบโตกว่าปีก่อน รายได้ค่านายหน้าเติบโตต่อเนื่องจากวอลุ่มเทรดที่เพิ่มขึ้น แย้มมีดีลไอพีโอปีนี้อีก 3 บริษัท ชูธุรกิจทางด้านการเงินเป็นดาวเด่น จากมูลค่าบริษัทขนาดกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท โชว์สถานะการเงินแข็งแกร่ง พร้อมขยายแผนธุรกิจในอนาคต

นายอารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MST เปิดเผยว่า สำหรับเป้าหมายการเติบโตในปี 2565 คาดว่าภาพรวมผลประกอบการจะทำได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา แม้จะมีปัจจัยเข้ามาหลายอย่างทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังต่อเนื่อง แต่ภาพรวมในช่วงไตรมาสที่ 1/2565 บริษัทก็ยังเห็นว่าทิศทางผลการดำเนินงานก็ยังเติบโตได้ดี

*ดีลไอพีโอในมือ

ในปี 2565 บริษัทคาดว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนที่จะนำหุ้นเสนอขายให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) ปีนี้ราว 4 บริษัท ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไปแล้ว 1 บริษัท ได้แก่ บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PEACE ซึ่งยังเหลืออีก 3 บริษัท ได้เเก่ บริษัทที่ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมการ ก่อสร้าง มูลค่าบริษัท 2,000 ล้านบาท, บริษัทที่ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรม มูลค่าบริษัท 2,000 ล้านบาท สำหรับบริษัทที่น่าสนใจในปีนี้เกี่ยวกับผู้ประกอบธุรกิจทางด้านการเงิน ซึ่งมีมูลค่าบริษัทที่ขนาดค่อนข้างใหญ่ราว 28,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 บริษัทจะเดินหน้าภายใต้แนวคิด "Democratizing Investment" ภารกิจหลัก คือการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนด้วยเครื่องมือทางการลงทุนที่เข้าถึงได้ง่ายๆ ขณะที่ในมุมธุรกิจได้อัพเกรดเทคโนโลยีบนเครื่องมือการลงทุน ขยายฐานผลิตภัณฑ์ทางการลงทุน และพัฒนาเรื่องการประมวลผลการลงทุนที่แม่นยำ

และปัจจุบันยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนใหม่ที่พร้อมนำเสนอข้อมูลด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายขึ้นตามไลฟ์สไตล์การลงทุนที่เน้นการเข้าถึงเป้าหมายการลงทุนของลูกค้าเป็นหลักทั้งการลงทุนในตลาดไทยและต่างประเทศ รวมถึงข้อมูลสถิติ วิเคราะห์หุ้น ข่าวสารประจำวัน การวิเคราะห์ความเสี่ยงแบบครบจบในแพลตฟอร์มเดียว โดยคาดว่าจะสามารถให้บริการได้ภายในไตรมาสที่ 2/2565

*รายได้ค่านายหน้าโต

โดยในสิ้นปี 2564 บริษัทยังรายได้ค่านายหน้ายังเป็นรายได้หลักของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 70% ของรายได้รวม โดยการเติบโตมาจากการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ รองลงมาคือรายได้ดอกเบี้ยคิดเป็น 18% ของรายได้รวม มาจากการขยายตัวของลูกหนี้ Credit Balance หรือ ลูกหนี้มาร์จิ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นตามสภาวะตลาด

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีสถานะการเงินที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง และมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 27,354 ล้านบาท โดยปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตมาจากมาร์จิ้น รวมถึงการขยายตัวของธุรกรรม Single Stock Futures Block Trade และมีมูลค่าซื้อขายของนักลงทุนบุคคลที่ 43,700 ล้านบาทต่อวัน สูงสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่สัดส่วนของนักลงทุนบุคคลก็เพิ่มสูงขึ้น มาอยู่ที่ 47% ช่วยสนับสนุนต่อผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาของบริษัท ซึ่งในสิ้นปี 2564 บริษัทมีฐานทุนอยู่ที่ 4,814 ล้านบาท เพียงพอต่อการขยายแผนธุรกิจในอนาคต

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1