#BEM #ทันหุ้น – BEM โชว์ปริมาณการจราจรบนทางด่วนยืนเฉลี่ย 1 ล้านคันต่อวัน ขณะที่กรมรางเปิดสถิติผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า MRTยืนเฉลี่ย 2 แสนคนต่อวัน แข็งแกร่ง เช่นเดียวกับ BTSที่ผู้โดยสารแตะ 4 แสนคนต่อเนื่อง นักวิเคราะห์แนะทยอยเก็บ 8-9 บาท รับเปิดเทอม พร้อมหลายปัจจัยหนุนที่จะชัดเจนตั้งแต่ครึ่งหลังของปี เป้า 10 บาทยังไม่รวมปัจจัยหนุน

กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม รายงานสถิติผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้าMRT ประจำเดือนมีนาคม 2565 จนถึงวันที่ 17 เมษายน 2565 ปรากฏว่าปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยในวันทำงานยังสามารถทรงตัวเฉลี่ยในระดับ 1.9 – 2 แสนคนต่อวัน ส่วนสายสีม่วงในวันทำงานสามารถทรงตัวเฉลี่ยที่ระดับ 1.8 แสนคนต่อวันได้ต่อเนื่อง แม้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ (13-15 เม.ย.2565) ที่ผ่านมา ส่วนปริมาณผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้าMRT เฉลี่ยช่วงวันหยุดสามารถทรงตัวที่ 1.3 แสนคนต่อวันได้ เช่นเดียวกับปริมาณผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า BTSในช่วงวันทำงานที่สามารถทรงตัวเฉลี่ยที่ 4 แสนคนต่อวัน และในช่วงวันหยุดสามารถทรงตัวเฉลี่ยที่ 2.8 แสนคนต่อวัน แสดงให้เห็นถึงกิจกรรมที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งตลอดไตรมาส 1/2565 ประชาชนมีความมั่นใจที่จะกลับมาใช้ชีวิต “ใกล้เคียงปกติ” มากขึ้น

@BEM เปิดเทอมหนุน

แหล่งข่าวในวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEMระบุว่าปริมาณการจราจรบนทางด่วนซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักสามารถฟื้นตัวแข็งแกร่ง กลับมาเฉลี่ยอยู่ที่เกือบ 1 ล้านคันต่อวัน และคาดว่าปริมาณจราจรจะมีการเติบโตกลับไปอยู่ที่ 1.2 ล้านคันต่อวันได้ภายในไตรมาส 2/2565 นี้ โดยเฉพาะข่วงเปิดเทอม

สำหรับธุรกิจรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินอยู่ในระดับ 1.9-2 แสนคนต่อวัน ทางบริษัทก็ประเมินว่าพ้นจุดต่ำสุดมาตั้งแต่ปี 2564 แล้ว และคาดว่าทั้งปี 2565 สถานการณ์จะดีขึ้น สถานการณ์โควิดรุนแรงน้อยลง มีการเปิดประเทศ และคาดว่ารัฐบาลประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่น รวมถึงเดือนพฤษภาคม จะสามารถเปิดภาคการศึกษาได้อย่างเต็มรูปแบบ เป็นปัจจัยหนุนจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น

@ชู 4 ปัจจัยบวก

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุ BEMเป็นหุ้นธีม “รีโอเพนนิง” (Reopening) ตัวเดียวที่ราคายังแลกการ์ด (Laggard) และยังไม่สะท้อนปัจจัยหนุนที่จะทยอยชัดเจนตั้งแต่งวดไตรมาส 3/2565 เป็นต้นไป ประกอบด้วย 1.การเปิดภาคการศึกษาทั้งระบบในเดือนพฤษภาคม 2565, 2.การเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มภายในเดือนสิงหาคม 2565 นี้ เนื่องจากปัจจุบันงานก่อสร้าง (งานโยธา) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ดำเนินการไปแล้วกว่า 80%หากไม่สามารถเปิดประมูลโครงการดังกล่าวได้จะส่งผลกระทบต่องานติดตั้ง จัดหา วางระบบรถไฟฟ้า นำไปสู่การปิดให้บริการล่าช้าออกไป

3.การที่รัฐบาล โดยกระทรวงคมนาคมเตรียมนำโครงการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 2 (Double Deck) บรรจุในวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี ควบคู่กับการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยหนุนนี้ นักวิเคราะห์ยังไม่นำมาประเมินมูลค่าเหมาะสมทางปัจจัยพื้นฐาน และ 4.BEMมีโอกาสได้รับเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยายในอนาคต จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 10 บาท

“ราคา BEMที่เคลื่อนไหวเฉลี่ย 8-9 บาท เป็นช่วงราคาที่ยังไม่สะท้อนปัจจัยหนุนที่เด่นชัดที่จะทยอยชัดเจนตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2565 เป็นต้นไปโดยเฉพาะปริมาณการจราจรบนทางด่วนที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งโดยไม่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างประเทศ รวมถึงโอกาสในการเข้าประมูลสายสีส้มส่วนต่อขยาย ก่อสร้าง Double Deck และรับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง อีกทั้งจากการประเมินตามปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่ 10 บาท จึงมี Upsideพอสมควร ดังนั้นที่ระดับราคานี้เป็นจุดเข้าซื้อที่เหมาะสม”

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon