#PTT #ทันหุ้น - PTT คาดราคาน้ำมัน ก๊าซ และผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ยังคงทรงตัวสูง รัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ ตรึงราคาพลังงานบางช่วงเพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ พร้อมป้องกันความเสี่ยงให้สอดคล้อง เดินหน้าผนึกยักษ์น้ำมันโลก ซาอุดีอารัมโก หาช่องธุรกิจ ล่าสุดร่วมการบินไทยรุกธุรกิจโลจิสติกส์

นายอรรถพล  ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ราคาพลังงานทั้งน้ำมันดิบ และก๊าซช่วงครึ่งหลังของปี 2565 (2H/65) ว่ายังคงมีแนวโน้มทรงตัวระดับสูง เนื่องจากสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย – ยูเครนที่ยืดเยื้อ เบื้องต้นคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกงวดไตรมาส 2/2565 จะเคลื่อนไหวระหว่าง 98 - 103 ดอลลาร์สหรัฐอเมริการต่อบาร์เรล ส่วนค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ คาดว่าจะเฉลี่ยระหว่าง 10.50 - 11.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีทั้งสายโอเลฟินส์ และอะโรเมติกส์ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2565 (QoQ)

อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัท จะยังคงมาตรการช่วยเหลือ “ส่วนลด” ค่าก๊าซหุงต้ม (LPG), และตรึงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ถึงเดือนมิถุนายน 2565 นี้ รวมถึงยังคงมีมาตรการช่วยเหลือ คู่ค้า และพันธมิตรทุกภาคส่วนตามหลักเกณฑ์ทางบัญชี และการเจรจาทางการค้า

“บริษัทยังคงต้องติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่จะส่งผลต่อราคาพลังงาน – ผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์อย่างใกล้ชิด และจะพิจารณาใช้เครื่องมือบริหารจัดการด้านต่างๆ อาทิ การทำประกันความเสี่ยง (Hedging) เข้ามาดำเนินการตามความเหมาะสม ควบคู่กับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”

@ผนึกยักษ์ใหญ่แตกธุรกิจ

กลุ่มบริษัทยังมุ่งพัฒนา ต่อยอดนวัตกรรม และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตร พร้อมรับการแข่งขันบนเวทีโลก ล่าสุดได้ลงนามความร่วมมือด้านพลังงานกับบริษัท ซาอุดี อารัมโก  บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของธุรกิจพลังงานตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ รวมถึงจะศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกันในการขยายการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องร่วมกันในอนาคต รวมถึงพลังงานสะอาด-ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า

ปตท. มีเป้าหมายธุรกิจโลจิสติกส์ สู่การเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร (Third Party Logistics) ทั้งทางบก, ทางน้ำ, และทางอากาศ รวมถึงการบริหารคลังสินค้า ควบคู่กับการพัฒนาดิจิทัล แพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจโลจิสติกส์ประสบความสำเร็จ จึงพิจารณาลงนามร่วมกับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือทางธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ และคลังสินค้า คาดว่าจะใช้ระยะเวลาศึกษาประมาณ 1 ปี โดนการจัดตั้ง “บริษัทร่วมทุน” (JV) ขึ้นมาบริหารจัดการ

โดยคาดว่าจะเริ่มจากการนำความรู้ ความชำนาญด้านการบริหารจัดการคลังสินค้า และการขนส่งสินค้าของกลุ่มบริษัท เข้ามาปรับปรุง โครงสร้างกลุ่มธุรกิจคาร์โก และปรับปรุงระบบภายในอาคารคลังสินค้าของ THAI ทั้งที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

“ปัจจุบันกลุ่มบริษัทได้ลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และโลจิสติกส์มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ท่าเทียบเรือโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ในส่วนของ ท่าเทียบเรือ F, ระบบขนส่งทางรางที่ขอนแก่น รวมถึงมีแพลตฟอร์มควบคุม และบริหารจัดการด้านการขนส่งสินค้าทั้งน้ำมันและผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถนำมาเสริม-พัฒนากลุ่มธุรกิจคาร์โก้ของ THAI ได้ทันที ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาศึกษาไม่เกิน 1 ปีก็จะสามารถเข้ามาสร้างเสริมศักยภาพการขนส่งสินค้าทางอากาศ รวมถึงการขนส่งสินค้าทั่วประเทศร่วมกันได้อย่างแน่นอน”

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ที่นี่

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1