#NRF #ทันหุ้น – NRFโชว์กำไรไตรมาส 1/2565 ที่ โต 90% โกยรายได้เพิ่ม 28% มั่นใจปีนี้ยังคงเป้าการเติบโตรายได้ที่ 50-70% เชื่อว่าปัญหาโลจิสติกส์ใกล้คลี่คลาย ลุยเก็บเกี่ยวผลการกำไรจากการลงทุนในสตาร์ทอัพ สร้างซินเนอร์ยี่ ร่วมบริษัทในเครือ ชี้การเข้าลงทุนโปรตีนจากพืชในสหรัฐ ช่วยยกระดับให้เป็นผู้นำโปรตีนจากพืชระดับโลก

นายแดน  ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF เปิดเผยว่า บริษัทรายงานกำไรสุทธิของกลุ่มบริษัท ในไตรมาส 1/2565 ที่ กำไรสุทธิของบริษัท ที่ 28.9 ล้านบาท เติบโต 90% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 15.2 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมียอดขายที่สูงขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นแตะ 45.2%และมีการรับรู้กำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงินที่กำหนดให้วัดมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน ซึ่งเกิดจากผลขาดทุนจากการตีราคาตลาด (Fair Value) ของเงินลงทุนในหุ้นของ AUSA.CN และกำไรจากการขายเงินลงทุนบางส่วนใน Boosted Ecommerce

*โปรตีนจากพืชเติบโตดี

อย่างไรก็ดี บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจากเพิ่มสูงขึ้นจากธุรกิจ e-Commerce ค่าใช้จ่ายพนักงานที่สูงขึ้น ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัท Plant And Bean ซึ่งผลิตโปรตีนพืชที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้จากการการขายรวม 603.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131.9 ล้านบาทหรือ 28% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้รายได้จากบริษัท City Food บริษัท BOOSTED NRF Corp. บริษัท Indeem Group จำกัด และบริษัท โบทานี เพ็ทแคร์ จำกัด

นอกจากนี้ ในปี 2565 กลยุทธ์หลักของบริษัทมุ่งเน้นไปที่การได้มาซึ่งเทคโนโลยีและแบรนด์ชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรมการลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonization), อุตสาหกรรมอาหารโปรตีนจากพืช (Plantbased Food) และอุตสาหกรรม e-Commerce เพื่อเข้ามาสร้างPlatform สำหรับธุรกิจของบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยในลักษณะที่จะสร้าง Synergy มากมายภายใน Valuechain ของบริษัท

นายแดน กล่าวว่า เป้าหมายในปี 2565 คือ 1. เก็บเกี่ยวผลการกำไรจากการลงทุนใน Start Ups หลายๆ บริษัท เพื่อนำเงินเหล่านั้นกลับมาลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonization) 2. การสร้าง Synergy ให้เกิดขึ้นระหว่างบริษัทในเครือ รวมถึงใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่บริษัทได้ทำเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage) 3. ดำเนินโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบันให้แล้วเสร็จ โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพของต้นทุน (Cost Efficiency Improvement)

*มั่นใจรายได้โต 50-70%

ดังนั้นยังเชื่อมั่นว่ารายได้จะเติบโต 50-70% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,100 ล้านบาท นอกจากนี้การเข้าไปลงทุนในให้ความช่วยเหลือทางการเงินและลงทุนในบริษัท Turtle Island Foods, SPC (TIF) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถความเป็นผู้นำด้าน Plant-Based Food ให้กับ NRF เปิดโอกาสให้ NRF  ยกระดับการเป็นผู้ผลิตอาหารโปรตีนจากพืช ระดับโลก

สำหรับปัญหาตู้ส่งสินค้าจากสถานการณ์โควิดนั้น ซึ่งส่งผลให้การรับรู้รายได้ของบริษัทเลื่อนออกไปอย่างต่อเนื่อง บริษัทเชื่อว่าปัญหาด้าน Logistics จะถึงจุดสูงสุดในไตรมาส 2-3 โดยล่าสุดบริษัทยังคงเห็นการปรับตัวที่ดีขึ้นของสถานการณ์ในทุกไตรมาส ส่วนการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญกับบริษัท เช่นเดียวกับ การรุกรานยูเครนของรัสเซียไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อบริษัท และบริษัทอาจได้รับประโยชน์ในระยะกลางอันเนื่องมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ที่นี่

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1