#บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม Consumer Finance ยังคำแนะนำ MARKET WEIGHT ในหุ้นกลุ่มนี้ ซึ่งคาดว่ากำไรสุทธิรวมของกลุ่มในปี 2565 จะเติบโต 12% จากปีก่อน ซึ่งได้แนะนำให้นักลงทุนเลือกซื้อหุ้นรายตัวที่มีภาพรวมการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง ซึ่งเลือกหุ้น MTC และ TIDLOR เป็นหุ้น Top Pick ของกลุ่ม
ฝ่ายวิจัยยูโอบี เคย์เฮียนฯ คาดว่ากำไรในปี 2565 ที่เติบโต 12% แม้ว่าแนวโน้ม credit cost จะสูงขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่ง, loan yield กลับสู่ภาวะปกติจากสงครามราคาในสินเชื่อจำนำทะเบียน และการประหยัดจากขนาด (economies of scale) เพื่อควบคุม cost to income
ในส่วนของ NPL ratio และค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองของกลุ่มคาดว่าจะเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี 2565 ซึ่งถูกฉุดจากการไม่มีโครงการพักชำระหนี้ และ Cost-Push Inflation ทีเกิดขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
**กลยุทธ์ลงทุนรายตัว
หุ้น MTC แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 64 บาทต่อหุ้น โดยกำไรสุทธิไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 1,376 ล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาสก่อน โดยผลประกอบการสูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยและตลาดประมาณการไว้ อย่างไรก็ตามคุณภาพสินทรัพย์ยังคงอ่อนตัว ในขณะที่ NPL ratioเพิ่มขึ้น แต่สินเชื่อยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 34%
หุ้น TIDLOR คงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 48 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำไรสุทธิไตรมาส 1/65 ที่ 940 ล้าบาท เติบโต 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และโต 18% จากไตรมาสก่อน โดยผลประกอบการสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 9% แต่เป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด โดยกำไรที่สูงกว่าคาดมาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่มีการควบคุมได้ดี
หุ้น SAWAD ปรับลดคำแนะนำเป็นถือ โดยราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงที่ 59 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำไรสุทธิไตรมาส 1/65 ที่ 1,036 ล้านบาท ลดลง 24% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 9% จากไตรมาสก่อน ซึ่งผลประกอบการต่ำกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ไว้ 14% และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 8% ผู้บริหารให้ข้อมูลว่าตั้งแต่เดือน มี.ค. 2565 SAWAD ได้ผ่อนคลาย LTV ของสินเชื่อจำนำทะเบียนจาก 30-40% เป็น 50% ซึ่งจะช่วยเร่งการเติบโตของสินเชื่อตั้งแต่ไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามราคาหุ้นของ SAWAD ได้ปรับเพิ่มขึ้น 15% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้กำไรมี upsideที่จำกัด
หุ้น KTC แนะนำขาย ให้ราคาเป้าหมายที่ 48 บาทต่อหุ้น กำไรไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 1,747 ล้านบาทเติบโต 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และโต 40% จากไตรมาสก่อน ซึ่งผลประกอบการสูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยและตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 7% และ 14% ตามลำดับ การเติบโตที่สูงขึ้นจากไตรมาสก่อน เกิดจากการไม่มึค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองพิเศษจาก KTB Leasing ขณะที่ราคาหุ้นในปัจจุบันสูงกว่าราคาเป้าหมายแล้ว
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม