#HPT #ทันหุ้น - HPT ส่งสัญญาณดีช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 2/2565 ออเดอร์ทะลัก ดันงานในมือหรือBacklog 150 ล้านบาท ทยอยส่งมอบไปถึงไตรมาส 3/2565 ลั่นเปิดประเทศหนุนยอดเข้าพอร์ตเพียบ ลุยแผนกดต้นทุนใช้โซลาร์ลดจ่ายค่าไฟฟ้าถึง 40% หนุนมาร์จิ้นพองโต มีลุ้นผลงานทำสถิติใหม่สูงสุด
นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โฮมพอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/2565 ผ่านมาแล้ว 2 เดือนมีทิศทางที่ดี โดยเฉพาะคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เดือนพฤษภาคมมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่องและสูงกว่าช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ขณะที่รายได้จากธุรกิจอื่น เช่น การจำหน่ายสินค้าใหม่ด้านสินค้าตกแต่งบ้าน ที่ผลิตจาก (Stoneware) หรือค่าคอมมิสชันอื่นๆ ยังเติบโตได้ดี คาดจะสนับสนุนผลประกอบการไตรมาส 2/2565 ให้เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา
ดันยอดนิวไฮ
ขณะที่ภาพรวมทั้งปี 2565 มีสัญญาณการเติบโตที่ดี และน่าจะทำให้บริษัทมียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (นิวไฮ) โดยปัจจุบันมีงานในมือ หรือ Backlog ที่ 150 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลข Backlog นิวไฮโดยมูลค่างานนี้จะมีกรอบระยะเวลาการผลิตเเละส่งมอบไปถึงไตรมาสที่ 3/2565 ซึ่งเป็นมูลค่างานในมือปัจจุบันนี้ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งเเต่ในช่วงกลางปี 2564 และยังมีทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น
สำหรับออเดอร์ที่มีเข้ามา มีทั้งออเดอร์ต่างประเทศและในประเทศ โดยต่างประเทศเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว ส่งผลให้มีการสั่งซื้อสินค้าสำหรับใช้บนโต๊ะอาหาร และโรงแรมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนในประเทศบริษัทขายผ่านบริษัท เซ็นทรัล ฮอสพิแทลลิที จำกัด หรือ CHL ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ HPT ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ครัวครบวงจร ภายใต้สโลแกน “ครบ พร้อม สำหรับธุรกิจบริการด้านอาหาร” คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ และคาดว่าธุรกิจอาหารและการท่องเที่ยวน่าจะกลับมาฟื้นตัว หลังจากที่ประเมินว่าสถานการณ์โควิดน่าจะกลายเป็นโรคประจำท้องถิ่นในอนาคต
ปัจจุบันบริษัทเดินเครื่องกำลังผลิตเต็ม 100% คาดจะเพียงพอต่อออเดอร์ที่มีเข้ามา และบริษัทจะเดินหน้าเพิ่มกำลังผลิตอีก 30-40% ให้ได้ภายใน 3-5 ปี จากปัจจุบันที่ 3 ล้านชิ้นต่อปี เบื้องต้นคาดจะเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทได้ตามกำลังผลิตที่สูงขึ้น สำหรับเงินลงทุน บริษัทวางงบไว้ไม่เกิน 50 ล้านบาท โดยจะใช้เพิ่มกำลังผลิต 20 ล้านบาท และทำการตลาด 20 ล้านบาท
กดต้นทุนลด
นางสาวนิจวรรณ กล่าวต่อว่า บริษัทมีแผนในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ในโรงงานการผลิตประมาณ 120,000 หน่วย คาดว่าหากหลังจากติดตั้งเเล้วเสร็จจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า 35% เเละโรงงานจะใช้ไฟฟ้าลดลงราว 30-40% โดยจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2565 นี้ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนไฟฟ้าและเพิ่มอัตรากำไรให้เติบโตเพิ่มขึ้น
บริษัทคาดผลประกอบการปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่าน ด้านอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) คาดว่าจะกลับไปสู่ระดับเดิมที่ 20-25% ส่วนอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) คาดว่าจะอยูที่ 5-10% อนึ่ง 3 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้แล้ว 84.31 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8.02 ล้านบาท
“ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เราพลิกมีกำไรจากการขายที่เยอะขึ้น และเรามีรายได้จากธุรกิจอื่นๆ เช่นการขายสินค้าตกแต่งบ้าน และค่าคอมอื่นๆ เข้ามา ทำให้อัตราการทำกำไรเราเพิ่มขึ้น ส่วนช่วงที่เหลือ หากไม่มีปัจจัยกดดันรุนแรง เราเชื่อว่าทิศทางผลประกอบการจะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยยอดขายน่าจะทำนิวไฮ หรือมียอดสูงสุดจากที่เราเคยทำได้”นางสาวนิจวรรณ กล่าว
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม