#TRC #ทันหุ้น – TRC เน้นประมูลงานมาร์จิ้นสูง โฟกัสงาน Oil&Gas, ปิโตรเคมี, คลังน้ำมัน และกลุ่มดิจิทัล หนุนแบ็กล็อกเพิ่มจากปัจจุบันมีอยู่กว่า 6.3 พันล้านบาท คาดทยอยรับรู้ในปีนี้ราว 3 พันล้านบาท ขณะที่ยอมรับต้นทุนวัสดุเหล็ก-คอนกรีต-น้ำมันปรับตัวสูง กดดันธุรกิจ พร้อมหั่นเป้ารายได้ปี 2565 เหลือมากกว่า 3 พันล้านบาท และพยายามรักษาระดับมาร์จิ้นให้อยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 6%

นายภาสิต ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในปี 2565บริษัทคาดว่าอาจยังทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน หลักๆ เป็นผลมาจากในช่วง 6 เดือนแรกของปีได้รับแรงกดดันโดยเฉพาะจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การกลับมาแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ในช่วงไตรมาส 1/2565 ที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าหน้าไซต์ ทำให้งานมีหยุดไปบ้างบางช่วงส่งผลให้การดำเนินงานล่าช้ากว่ากำหนด

นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 2/2565บริษัทยังได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนวัสดุที่ปรับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันดีเซล คอนกรีต และเหล็ก ที่ปรับตัวสูงมากกว่า 30%ทำให้ไม่สามารถเปรียบเทียบได้ว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565จะดีกว่าหรือไม่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะต้นทุนต่างกันค่อนข้างมาก อย่างไรก็ดี บริษัทได้วางแผนป้องกันความเสี่ยง ทั้งการเจรจากับทางเจ้าของโครงการเพื่อปรับราคาส่วนต่างวัสดุ เจรจากันทางสถาบันการเงินเพื่อขอวงเงินล็อกต้นทุนวัสดุกับทางซัพพรายเออร์ และเร่งงานให้เสร็จเร็วขึ้น

*ประมูลงานมาร์จิ้นสูง

จากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทได้มีการปรับเป้าหมายรายได้รวมปี 2565 เหลือกว่า 3,000 ล้านบาทขึ้นไป จากเดิมที่วางไว้ไม่น้อยกว่า 4,500-4,800 ล้านบาท และพยายามรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมในปีนี้ให้อยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 6% รวมถึงรักษา Buttom Line ให้อยู่ในระดับที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ โดยปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นเข้าประมูลงานก่อสร้างที่มีมาร์จิ้นสูงโดยเฉพาะงานก่อสร้างในโครงการ Oil&Gas, ปิโตรเคมี รวมถึงงานใหม่ๆ อย่างการก่อสร้างคลังสำรองน้ำมัน ขณะเดียวกันก็มีการกระจายความเสี่ยงไปในกลุ่มธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง เช่น กลุ่มดิจิทัล

ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอการส่งมอบ (Backlog) อยู่ที่ 6,398.18ล้านบาท แบ่งสัดส่วนออกเป็นงาน Civil Works มูลค่า 5,539.67 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 86.58%, งานก่อสร้างท่อก๊าซ (Piping System) มูลค่า 721.14ล้านบาท คิดเป็น 11.27%และอื่นๆ 137.37ล้านบาท คิดเป็น 2.15%ของแบ็กล็อกรวม

เบื้องต้นคาดว่าจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 2/2565ไปจนถึงไตรมาส 4/2565นี้ประมาณ 3,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี อัตรากำไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยของมูลค่างานที่มีอยู่ในมือรวมอยู่ที่ระดับ 3-10% ขึ้นอยู่กับขนาดของโครงการ อีกทั้งบริษัทยังมีงานที่ชนะการประมูลและอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีก 2-3 โครงการ คาดว่าในปีนี้จะทยอยได้ข้อสรุป

"ต้องยอมรับว่างานก่อสร้างปี 2565 นี้ค่อนข้างมีความท้าทายอย่างมาก ทั้งเรื่องการระบาดของโควิด-19 ที่กระทบต่อการก่อสร้างในไตรมาสแรก เรื่องเงินเฟ้อและต้นทุนวัสดุที่ปรับตัวเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องกดดันต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565ทำให้การเปรียบเทียบการเติบโตคงคาดเดาได้ยากเพราะสถานการณ์มีความแตกต่างกัน ฐานต้นทุนต่างกันมาก แต่เราเองก็พยายามบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ดีเรามองว่าธุรกิจใหม่ เช่น Smart IoT ธุรกิจการจัดหาพลังงานทดแทนและสาธารณูปโภค ยังคงไปต่อได้ในปีนี้" นายภาสิต กล่าว

ขณะที่ความคืบหน้าโครงการเหมืองโปแตช ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 25.13%ในบริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) ที่หยุดดำเนินการหลังจากไม่มีการใส่เงินทุนเพิ่ม ปัจจุบันยังบอกไม่ได้ว่าจะกลับไปดำเนินการหรือไม่ เนื่องจากยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แม้ปัจจุบันไทยประสบปัญหาขาดแคลนแม่ปุ๋ยก็ตาม ซึ่งหากเดินเครื่องผลิตจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่กว่า 1.23 ล้านตันต่อปี แต่อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีผู้ประกอบการหลายรายที่ให้ความสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการเจรจากับหลายฝ่าย อาจต้องใช้ระยะเวลาจึงจะได้ข้อสรุป

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon