> ประกัน > TIPH

20 มิถุนายน 2022 เวลา 12:16 น.

TIPH คาดเปิดบริษัทใหม่ปีนี้ ควงเจ้าถิ่นลุยประกันกัมพูชา

#TIPH #ทันหุ้น TIPH เปิดโปรเกต์ใหม่ครึ่งปีหลัง พร้อมลงทุนประกันภัยในกัมพูชา คาดเปิดดำเนินการได้ภายในปีนี้ ชี้ตลาดยังแข่งขันไม่แรง เจ้าถิ่นไม่ดุ มีโอกาสเจาะฐานลูกค้าได้ง่ายกว่าเวียดนามที่เจ้าถิ่นครองตลาด แถมมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมาก เป็นโอกาส เข้ารับงานประกันภัย


ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP กล่าวว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนธุรกิจประกันภัยในกัมพูชา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเติบโต มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลายอย่าง ที่สำคัญผู้เล่นในตลาดประกันภัย และการแข่งขันไม่ได้สูงแบบเวียดนาม โดยเวียดนามแม้จะมีการขยายตัวของเศรษฐกิจสูง ประชากรมีจำนวนมาก มีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ มีโอกาสมากมายแต่ผู้เล่นเจ้าถิ่นก็แข็งแกร่ง ยากที่ผู้เล่นต่างชาติจะเข้าไปชิงส่วนแบ่ง


เวียดนามเจ้าถิ่นแกร่ง

“ธุรกิจประกันของเวียดนามโครงสร้างคล้ายไทยคือผู้เล่นท้องถิ่นมีความแข็งแกร่งมาก ทำให้เรามองว่า ยากที่จะเข้าไปเจาะตลาดประกัน จึงเปลี่ยนรูปแบบเป็นความร่วมมือทางธุรกิจ กรณีที่นักลงทุนเขามาลงทุนบ้านเรา เราก็จะเป็นผู้เข้าไปรับประกัน และถ้านักลงทุนหรือลูกค้าเราไปบ้านเขา เราก็จะให้เขาเป็นผู้รับประกัน”


ส่วน ในกัมพูชาต่างออกไป ดร.สมพร เล่าว่าเป็นการเริ่มต้นจากศูนย์ โดยเป็นความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น 1 ราย และเป็นพันธมิตรไทย 1 ราย ซึ่งทั้ง 2 แห่งไม่ได้ดำเนินธุรกิจประกันภัย โดยคาดว่าบริษัทที่กัมพูชาจะเปิดได้ภายในปีนี้ และมีงานเข้ามาในพอร์ตได้ทันทีที่เริ่มธุรกิจ เบื้องต้นบริษัทดังกล่าว ใช้ทุนจดทะเบียนประมาณ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


ส่วนการคืนทุนและสร้างผลกำไรนั้น ดร.สมพร เผยว่าโดยทั่วไปการคืนทุนนของธุรกิจประกันภัยจะอยู่ที่ราว 5-6 ปี พอมีกำไรราว 2-3 ปีก็สามารถหักล้างขาดทุนได้หมด ซึ่งคาดว่าที่กัมพูชาก็น่าจะเป็นแบบนี้เช่นกัน เพราะตลาดมีโอกาสเติบโตสูงมาก ทั้งการแข่งขันในตลาดที่ยังไม่รุนแรง จำนวนประชากร การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่มีมาก ความเสถียรภาพทางการเมือง เป็นต้น


ลาวทำกำไรแต่ตลาดเล็ก

ซึ่งถ้าเทียบกับธุรกิจประกันภัยของทิพยประกันภัย ใน สปป. ลาว ซึ่งทำมาราว 5-6 ปีแล้ว ขนาดธุรกิจอยู่ที่ 60 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น อย่างไรก็ตามปัจจุบันสามารถทำกำไรสะสมแล้ว เพียงแต่บริษัทยังไม่ได้นำเงินกลับเข้าไทย ซึ่ง ดร. สมพรให้เห็นผลว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะลงทุนเปิดธุรกิจประกันชีวิตในสปป.ลาว เพิ่มเติมหรือไม่ เพราะการประกอบธุรกิจประกันภัยต้องมีใบอนุญาต หรือ ไลเซนส์แยกระหว่าง  ธุรกิจประกันชีวิต และ ประกันวินาศภัย


“ที่ผ่านมาใช้เพียงใบไลเซนส์เดียวทำได้ทั้งประกันชีวิต และประกันวินาศภัย แต่ตอนนี้ลาวให้แลกใบไลเซนส์ และถ้าตัดสินใจลงทุนประกันชีวิตในตอนนี้ ข้อดีคือจ่ายเงินแล้วเดินหน้าธุรกิจได้เลย แต่ถ้าไม่ทำตอนนี้ อนาคตหากสนใจจะต้องเริ่มกระบวนการขออนุญาตใหม่หมด ซึ่งอาจใช้เวลา และขันตอนที่มากขึ้น แต่ที่เรากำลังพิจารณาคือโอกาสในอนาคต”


ดร.สมพร บอกว่า แม้การแข่งขันทางธุรกิจ สปป.ลาวจะไม่รุนแรง แต่ประชาชนลาวที่พอมีกำลังจะเลือกทำประกันชีวิต กับบริษัทของคนไทยมากกว่าด้วยเหตุผลเรื่องการรักษาพยาบาลที่สามารถเดินทางเข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลไทยได้ ประเด็นดังกล่าวจึงทำให้เราต้องประเมินอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนใหม่อีกครั้ง


เปิดโอกาสเติบโต

“ทุกวันนี้ มาร์จิ้นของธุรกิจประกันวินาศภัยน้อยลงทุกที ส่วนใหญ่ทำกำไรได้ราว 3-5%ต่อปี ใครทำได้ 7%นี่เก่งมากๆ ซึ่งถ้าเอากำไรจากการลงทุนออกไป กำไรจากการรับประกันจะเหลือน้อยมากๆ ซึ่งนั่นจึงทำให้เราปรับตัว และเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจผ่านการลงทุนในตลาดที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต ทั้งในไทยและต่างประเทศ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับประกันภัย และไม่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว”

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X