> กองทุน >

23 มิถุนายน 2022 เวลา 09:00 น.

เวียดนามพื้นฐานไม่เปลี่ยน อีกทางเลือกกระจายลงทุน

#บลจ.กสิกรไทย #ทันหุ้น บลจ.กสิกรไทย สาธยายจุดเด่นเวียดนาม เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุน แม้ที่ผ่านมาจะปรับฐานลงแรง แต่เพราะภาครัฐปราบปรามคอรัปชั่น ขณะที่พื้นฐานไม่เปลี่ยน เศรษฐกิจเติบโตโดดเด่น แถมราคาซื้อขายไม่แพง แนะลงทุนระยะกลาง-ยาว ผ่าน K-VIETNAM


นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต, CFA, รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด หรือ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า เวียดนามเป็นอีกตลาดทางเลือก สำหรับผู้ลงทุนที่สามารถถือลงทุนได้ระยะกลาง-ยาว ซึ่งในช่วงเมษายนปีนี้ที่ตลาดหุ้นเวียดนามปรับฐาน ส่วนหนึ่งมาจากภาครัฐปราบปรามการทุจริต หรือคอรัปชั่นในประเทศ มีการจับกุมบุคคลหลายรายในข้อหาปั่นหุ้น ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามปรับฐานลงแรงในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตามพื้นฐานความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจไม่ได้เปลี่ยนไป ทำให้ บลจ.กสิกรไทย ยังมีมุมมองบวกกับโอกาสในอนาคต


นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเวียดนาม ปัจจุบันอยู่ในกลุ่ม Frontier market หรือตลาดหุ้นชายขอบ ทั้งใน FTSE Russell และMSCI โดยตลาดคาดว่าหากสามารถขยับสถานะสู่ Emerging Market ได้จะส่งผลให้มีแนวโน้มที่เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้าเพิ่มมากขึ้นโดย ณ ปัจจุบันตลาดหุ้นเวียดนามผ่านเกณฑ์ในแง่ขนาดสินทรัพย์สภาพคล่องตลอดจนมีแนวโน้มปฎิรูปรัฐวิสาหกิจและกฎหมายด้านการลงทุนต่างๆในทิศทางที่เป็นสากลมากขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเวียดนามยังคงมีหลายประเด็นที่ต้องทาการแก้ไขและคาดว่าคงต้องใช้เวลาอย่างน้อย2-3ปีต่อจากนี้กว่าจะได้เข้าเป็นสมาชิกตลาดประเทศกำลังพัฒนา


นางสาวธิดาศิริ มองว่า ตลาดอาเซียนเริ่มได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น จาก2-3 ปีที่ผ่านมา เม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าสู่กลุ่มประเทศเกิดใหม่ หรือ New economy ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ในขณะที่อาเซียน ส่วนใหญ่เป็น Old Economy หรือธุรกิจดั่งเดิม ทำให้ไม่ได้รับความสนใจในช่วงที่ผ่านมา เมื่อเม็ดเงินไม่เข้า โอกาสในการปรับฐานลงไปต่ำกว่านี้ก็จะน้อยลงไปด้วย เมื่อเทียบกับตลาดที่พัฒนาแล้ว(DM)


ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนามยังเติบโตในระดับสูงที่โต 21 .8% ในปี 2565 และโต 25 %ในปี 2566 สอดคล้องกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีความโดดเด่นในภูมิภาค คาดว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่สนับสนุนการเติบโตของกำไรตลาดหุ้นเวียดนามในปี 2565 มากที่สุด คือ กลุ่มการเงิน (Financials) กลุ่มอสังหาริมทรัพนย์ (Real Estate) กลุ่มสาธารณูปโภค (Utilities) กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ (Consumer Staples)


นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเวียดนามยังซื้อขายในระดับที่น่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับภูมิภาค โดยเศรษฐกิจของประเทศยังคงแข็งแกร่งผลักดันโดยภาคการส่งออก และการฟื้นตัวภาคบริการจากการเปิดเมือง (Reopening) โดยตลาดคาดการณ์การเติบโตกาไรต่อหุ้น (EPS growth) ปี 2565 ยังอยู่ในระดับสูงที่ 21.8% ประกอบกับ Valuation ที่ 11.9 x PE22ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามยิ่งดูน่าสนใจมากขึ้นในระยะยาว


นางสาวธิดาศิริกล่าวว่า เวียดนามมีความน่าสนใจหลายมิติ ทางด้านเศรษฐกิจในประเทศเติบโตต่อเนื่องทั้งในระยะกลางและยาว ระบบการเงินที่มีเสถียรภาพ การสนับสนุนจากรัฐบาลในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงานทำให้การบริโภคในประเทศและกิจกรรมทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับที่สูง และ การไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่องจากการย้ายฐานการผลิต


ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย แนะนำ กองทุนเปิดเค เวียดนาม หุ้นทุน (K-VIETNAM) มีนโยบายการลงทุนที่ส่วนใหญ่เน้นลงทุนตรงในหุ้นเวียดนาม และบางส่วนลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้นเวียดนาม ซึ่งรวมถึง ETF ด้วย ทั้งนี้ สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการวางแผนเกษียณก็สามารถเลือกลงทุนใน กองทุน เปิดเค เวียดนาม หุ้นทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ (K-VIETNAM-RMF) ได้เช่นกัน

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X