#TOG #ทันหุ้น – TOG กางแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดเอเชีย เป็น 1ใน 3 ของรายได้รวม หวังลดการพึ่งพิงตลาดยุโรป-สหรัฐ ส่งซิกยอดขายตลาดสหรัฐ-ยุโรป ฟื้นตัวเด่น คาดได้รับออเดอร์ใหม่ครึ่งปีหลังเพียบ วางงบปี 2565ไว้ 6-8%ของรายได้รวม คงเป้ารายได้ปีนี้ยังโต 15% จากปีก่อน

นางอมลรัตน์  ประจักษ์ธรรม กรรมการ บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TOG เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2565บริษัทยังคงเดินหน้าขยายตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพิงตลาดยุโรปและสหรัฐมากเกินไป โดยวางเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนยอดขายตลาดเอเชียขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของรายได้รวม ทั้งนี้ บริษัทจะให้น้ำหนักไปที่ตลาดเอเชียเป็นหลักโดยเฉพาะตลาดประเทศจีน และตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ มีจำนวนประชากรมาก และมีกำลังซื้อสูง

ส่วนธุรกิจในสหรัฐ ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะในช่วงที่ผ่านมามีข่าวการควบรวมกิจการของรายใหญ่ คือ Essilor ผู้ผลิตเลนส์ กับ Luxottica ผู้ผลิตกรอบแว่นตา ทำให้ตลาดมีความกังวลว่าอาจทำให้การแข่งขันด้านราคาจะขึ้นกับผู้เล่นรายใดรายหนึ่งมากเกินไป จึงเริ่มมองหาผู้เล่นรายย่อยรายใหม่เขามากระจายความเสี่ยง ซึ่งคาดว่าบริษัทจะได้รับอานิสงส์ดังกล่าว โดยคำสั่งซื้อจะเร่งตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป ดังนั้น บริษัทประเมินยอดขายตลาดสหรัฐ ในปี 2565 ไว้ที่เติบโตไม่น้อยกว่า 17-20% จากปีก่อน

*ออเดอร์ลูกค้าใหม่เข้า

ขณะที่ตลาดยุโรปในปี 2565 คาดว่ายอดขายจะเติบโตแบบตัวเลข สองหลักต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลายตัวลง และยุโรปกลับมาเปิดประเทศและกลับมามีการจัดงานแสดงสินค้าแล้ว ที่ผ่านมาบริษัทได้ไปร่วมออกบูธ 2 งาน การตอบรับค่อนข้างดี คาดว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหม่เข้ามาเพิ่ม กรณีความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน อาจกระทบต่อยอดขายกลุ่มประเทศดังกล่าวบ้าง แต่สัดส่วนตลาดหลักในยุโรปยังคงเป็นอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์อยู่

ส่วนประเด็นเรื่องค่าเงินบาทอ่อนตัวลงทะลุระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ ไปแล้วในปัจจุบันนั้น มองว่าเป็นอานิสงส์เชิงบวกต่อธุรกิจ เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนรายได้มากกว่า 95-96%มาจากการส่งออก ทำให้บริษัทมีความได้เปรียบทางการค้า ขณะสถานการณ์เงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลกมองว่าอาจมีผลกระทบต่อบรรยากาศในการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่จากการพูดคุยกับลูกค้ากลุ่มค้าปลีกในช่วงที่ผ่านมา ยังมีกลยุทธ์ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่ายอดขายของบริษัทเองยังคงมีทิศทางการเติบโตที่ดีได้อยู่

*เล็งอัพกำลังผลิต

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2565เชื่อว่ายังคงมีการเติบโตที่ดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ตามสถานการณ์โควิด-19 ที่คลายตัวลง ทำให้ดีมานด์เลนส์สายตากลับมามีทิศทางที่ขยายตัวดีขึ้น สำหรับต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบนั้นต้องยอมรับว่าในไตรมาส 2/2565 ปรับตัวสูงต่อเนื่องจากไตรมาสแรก แต่บริษัทยังคงบริหารจัดการได้ดี และมั่นใจว่าจะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจได้ต่อไป จากในไตรมาส 1/2565บริษัทมี อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 21.16% และอัตรากำไรสุทธิ 11.61%

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมปี 2565 ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อนที่ 2,418.71 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 310.12 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 654.84 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 76.00 ล้านบาท ขณะที่งบลงทุนปีนี้วางไว้ประมาณ 6-8% ของรายได้รวม หลักๆ เพื่อซ่อมบำรุงและเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรและการผลิต ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาขยายกำลังการผลิตเลนส์สายตาเฉพาะบุคคล (Rx) เพิ่มเติม เพื่อรองรับคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เพราะตอนนี้ใช้กำลังผลิตที่สูงกว่า 90% แล้ว

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1