#HPT #ทันหุ้น – HPT โดดรับบาทอ่อน หนุนมาร์จิ้นไตรมาส 2/2565 ฟู ด้านแม่ทัพหญิง “นิจวรรณ  เชาว์กิตติโสภณ” โชว์ แบ็กล็อกแน่น 117 ล้านบาท แย้มออเดอร์เรียงคิวยาวยันสิ้นปี 2565 ส่งสัญญาณทิศทางธุรกิจครึ่งหลังดีกว่าครึ่งปีแรก มั่นใจผลงานทำนิวไฮตามเป้า

นางสาวนิจวรรณ  เชาว์กิตติโสภณ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โฮมพอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT เปิดเผยว่า ทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่า จะเป็นผลบวกต่อการส่งออกของ HPT เพราะบริษัทส่งออกสินค้า เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารไปต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนถึง 90% โดยจะสนับสนุนให้อัตรากกำไร (มาร์จิ้น) ไตรมาส 2/2565 ส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้น หากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในลักษณะนี้ คาดจะสนับสนุนให้ผลประกอบการไตรมาส 3/2565 เติบโตต่อ โดยปัจจุบันบริษัทมีฐานการส่งออกไปประเทศอเมริกา ยุโรป นิวซีแลนด์ และแถบประเทศในอาเซียน เป็นหลัก

** ออเดอร์ยาว

สำหรับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ปัจจุบัน ส่งผลให้กำลังผลิตยาวไปถึงสิ้นปี 2565 โดยมียอดสั่งซื้อ หรือ Backlog ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 117 ล้านบาท บริษัทจะส่งมอบในช่วงที่เหลือของปีนี้เป็นหลัก และบางส่วนอาจจะทยอยส่งมอบปี 2566 ทั้งนี้บริษัทได้เพิ่มเครื่องจักรขนาดเล็ก เพื่อรองรับออเดอร์ใหม่ และน่าจะเพียงพอต่อออเดอร์ที่มีเข้ามา

ขณะที่ระยะยาวบริษัทมีแผนจะเพิ่มกำลังผลิตอีก 30-40% ให้ได้ภายใน 3-5 ปี จากปัจจุบันที่ 3 ล้านชิ้นต่อปี หรือใช้กำลังผลิตเต็ม 100% เบื้องต้นคาดจะเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทได้ตามกำลังผลิตที่สูงขึ้น สำหรับเงินลงทุน บริษัทวางงบไว้ไม่เกิน 50 ล้านบาท โดยจะใช้เพิ่มกำลังผลิต 20 ล้านบาท และทำการตลาด 20 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทประเมินทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2565 จะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะครึ่งปีแรกมีวันหยุดจำนวนมาก ทำให้ขายสินค้าได้ไม่เต็มเดือน โดยเฉพาะเดือนเมษายนที่มีวันหยุดจำนวนหลายวัน ส่วนครึ่งปีหลังบริษัทคาดจะขายสินค้าเต็มทุกเดือน ทำให้บริษัทมองแนวโน้มธุรกิจ และผลประกอบการครึ่งปีหลังจะเป็นทิศทางที่ดี

ขณะเดียวกันบริษัทจะดำเนินธุรกิจ โดยใช้กลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุน เพื่อลดต้นทุน และสร้างมาร์จิ้นให้กับบริษัท โดยบริษัทมีแผนในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ในโรงงานการผลิตประมาณ 120,000 หน่วย คาดว่าหากหลังจากติดตั้งเเล้วเสร็จจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า 35% เเละโรงงานจะใช้ไฟฟ้าลดลงราว 30-40% โดยจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2565 นี้ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนไฟฟ้าและเพิ่มอัตรากำไรให้เติบโตเพิ่มขึ้น

** ปั๊มมาร์จิ้นฟู

บริษัทคาดผลประกอบการปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่าน ด้านอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) คาดว่าจะกลับไปสู่ระดับเดิมที่ 20-25% ส่วนอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) คาดว่าจะอยูที่ 5-10% อนึ่ง 3 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้แล้ว 84.31 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8.02 ล้านบาท

นางสาวนิจวรรณ กล่าวต่อว่า ส่วนการขายสินค้าในประเทศบริษัทขายผ่านบริษัท เซ็นทรัล ฮอสพิแทลลิที จำกัด หรือ CHL ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ HPT ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ครัวครบวงจร ภายใต้สโลแกน “ครบ พร้อม สำหรับธุรกิจบริการด้านอาหาร” คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ และคาดว่าธุรกิจอาหารและการท่องเที่ยวน่าจะกลับมาฟื้นตัว หลังจากที่ประเมินว่าสถานการณ์โควิดน่าจะกลายเป็นโรคประจำท้องถิ่นในอนาคต

“เราขอดูทิศทางผลประกอบการครึ่งปีแรกก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าผลงานออกมาดี ครึ่งปีหลังเราอาจจะปรับยอดขายเพิ่มขึ้น แต่ในปีนี้เราค่อนข้างมั่นใจผลงานจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย และทำนิวไฮจากปีก่อน ที่มียอดขาย 208.25 ล้านบาท”นางสาวนิจวรรณ กล่าว

รู้ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ที่นี่ 

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/ 

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA 

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_ 

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA 

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7 

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5 

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1