> SET > KCE

28 มิถุนายน 2022 เวลา 09:04 น.

เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

#SET #ทันหุ้น - บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index ยังมีแนวโน้มแกว่งแกว่งตัว Sideways to Sideways Up ต่อเนื่องระยะสั้นหลังยืนเหนือ 1,580 จุดได้ แต่คาด Upside จะเริ่มจะกัดมากขึ้นบริเวณแนวต้านจิตวิทยา 1,600 จุด ตลาดคลายกังวลระยะสั้นและคาดหวังว่านโยบายการเงินของ FED ที่ตึงตัวเร็วจะไม่แย่ถึงขั้นทำให้เศรษฐกิจเกิด Recession แต่ภาพรวมตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่ที่ชัดเจนและต่างรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ทั้งการจ้างงานและเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ก่อนที่ FED จะประชุมกันอีกครั้งวันที่ 26-27 ก.ค. ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ค่อนข้างแน่นอน 


ส่วนปัจจัยในประเทศน้ำหนักยังอยู่ที่การ Reopening และเปิดประเทศ หนุนเศรษฐกิจอยู่ในทิศทางขาขึ้นและดูดีกว่าภูมิภาคอื่น ยังเน้นลงทุนในหุ้น Value และ Selective หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและมีแนวโน้มกำไร 2Q22-2H22 ที่แข็งแกร่ง ถูกกระทบจำกัดจากต้นทุนที่ปรับขึ้น


กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value และหุ้นทีมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและแนวโน้มกำไร 2Q22-2H22 แข็งแกร่ง 

หุ้นเด่นเดือนมิ.ย. : BCP, CK, CPALL, MAJOR, SAWAD


หุ้นเด่นวันนี้ : SNC

• แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก Consensus 22.92 บาท

• โมเมนตัมกำไร 2Q22 แม้อาจอ่อนตัว Q-Q จากปัจจัยฤดูกาลของลูกค้าชาวจีน แต่คาดยังเห็นการเติบโตที่โดดเด่น Y-Y จากคำสั่งซื้อ OEM ที่เร่งตัวจากปีก่อนหนุนรายได้โตแกร่งและได้อานิสงส์จาก Operating Leverage 

• ตลาดประเมินกำไรปี 2022 เติบโต +26% Y-Y โดยหากอิงคาดการณ์ EPS ที่ 2.10 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด PER เพียง 8.8 เท่า และคาดให้ Dividend Yield ราว 6% 

• แนวรับ 18.20-18 บาท แนวต้าน 18.80//19.40 บาท


**บล.เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) คาดดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ ต่างประเทศกังวลเงินเฟ้อ ขณะที่หุ้นไทยมีแรงซื้อกลับหุ้นที่ราคาลงมามาก


รัสเซียไม่พอใจ ในเรื่องของ G-7 จะห้ามนำเข้าทองคำจากรัสเซีย รวมถึงยูเครนมีการไปขอความช่วยเหลือจากประเทศอื่น ๆ อาจเป็นเหตุรัสเซียโจมตีห้างฯแห่งหนึ่งของยูเครน กอรปกับความกังวลเรื่อง Supply ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น เป็นตัวถ่วงตลาด


ธนาคารในสหรัฐฯ 5-6 แห่ง มีแผนจ่ายเงินปันผลมากกว่าคาดหลังผ่านการทดสอบ Stress Test เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ตลาดสหรัฐฯ วันนี้ น่าจะบวกได้จากข่าวนี้


ตลาดหุ้นไทยมีแรงซื้อกลับจากนักลงทุนต่างชาติวานนี้ (27) Net Buy 1.7พันล้านบาท  หลังจากขายติดต่อกันมา8 วัน หากมีแรงซื้อจากนักลงทุนกลุ่มนี้ต่อเนื่อง จะเป็นสัญญาณที่ดีของตลาดหุ้นไทย


ติดตามการหารือ เรื่องขอเงินจากโรงกลั่นน้ำมันในวันพรุ่งนี้(29) มีผลต่อราคาหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น


ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ คือ ความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน มิ.ย. ของสหรัฐ


ทั้งนี้ ราคาสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดโลก ถูกซื้อต่อ หนุนด้วยดอลล่าร์อ่อนค่าลง (เช้านี้ 103 จุด) เงินบาทขยับขึ้นมาแข็งค่า (เช้านี้ 35.3 บาท/ดอลลาร์ ) แต่การลงทุน น่าจะยังเลี่ยงหุ้นที่อิงกับผลกระทบของเศรษฐกิจ  ที่มาจากเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขึ้นเร็วเกินไป อาทิ กลุ่มธนาคาร ที่อยู่อาศัย


กรอบลงทุนยังเน้นช่วงสั้น  ถ้าดัชนีฯ สามารถยืนเหนือ 1580 จุด ได้จนถึงวันพรุ่งนี้ ให้เพิ่มพอร์ต และลดพอร์ตเมื่อมี(สัญญาณขาย ยังอยู่ที่ระดับดัชนีฯ ที่ต่ำกว่า 1550 จุด)


นักลงทุนในประเทศ จะเป็นกลุ่มที่ซื้อหลักๆ เราให้น้ำหนักกับหุ้น 4 กลุ่ม 1). หุ้นที่เคยถูกกระทบจากราคาน้ำมันในระดับสูง (SCC, IRPC) 2).หุ้นเปิดเมือง (BDMS, AOT) 3) หุ้นราคาลงมามากๆ (CPALL, CBG, OSP, KCE, HANA)  4) หุ้นพื้นฐานแข็งแรง ที่ราคาลงมาจน Dividend Yield สูงพอ (PTT)


พอร์ตหุ้นวันนี้ เรานำ BGRIM, SCGP ออก และนำ KCE, THCOM* เข้ามาแทน พอร์ตหุ้นประกอบด้วย KCE(20%), THCOM*(10%),  BDMS(20%),  COM7(20%), BBIK(20%)


Strategy Stock Pick

KCE: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 65.50 บาท) “กลุ่มอิเล็กทรอนิคเริ่มฟื้น เข้า Theme Bottom Fishing”

• ลุ้นราคาหุ้นฟื้น และค่อยๆผ่านช่วงเวลาของความยากลำบากในด้าน Operation และความกังวลของรัสเซีย ในด้านราคาหุ้นจากต้นปี 22 ราคาปรับฐานมาแล้วกว่า -28.7% สะท้อนความเสี่ยงต่างไปค่อนข้างมาก down side เริ่มจำกัด

• KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 2022-2023 ที่ 2.97 พัน ลบ. และ 3.38 พัน ลบ. +23%YoY, +14%YoY ตามลำดับ


Technical : FORTH, SEAOIL


**บล.คิงส์ฟอร์ด จำกัด ประเมินดัชนี SET ฟื้นตัวหลังความผันผวนเริ่มลดลง และได้แรงซื้อในช่วง Window Dressing วางแนวรับที่ 1,570 – 1,575 แนวต้าน 1,585 – 1,590 แนะนำซื้อกลุ่มเปิดเมือง AOT, BTS, BEM, CPALL/ เก็งกำไร STARK, SNC (+ราคาทองแดงลดลง )


OSP* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 37.50 บาท) จากสถานการณ์ COVID-19 ที่คลี่คลายลงช่วยให้ยอดขายดีขึ้น ทั้งกลุ่ม Energy Drinks และ Functional Drink โดยในงวด 2Q65 คาดกำไรดีขึ้น QoQ, YoY จากการออกสินค้า M150 สูตรใหม่ ราคา 12 บาท ตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.65  ช่วยให้ GPM สูงขึ้น ทั้งนี้บริษัทคาดว่าภายใน 1-2 ปี จะมียอดขายสินค้า Premium อย่างน้อย 75% ของเครื่องดื่ม Energy Drinks ทั้งหมด ส่วนการบริหารต้นทุนพลังงานหลักจากก๊าซธรรมชาติและน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น บริษัทมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ light bottle และใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เข้ามาช่วย โดยในปีนี้ตั้งงบลงทุน 1.5 พันล้านบาท ในการลดการใช้พลังงาน และตั้งเป้าลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ได้ 5 พันล้านบาทภายใน 5-7 ปี


CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 74.00 บาท) กำไรสุทธิในช่วง 1Q65 อยู่ที่ 3,453 ลบ. (+32.86% YoY, -48.49% QoQ) ฟื้นตัวได้โดดเด่นโดยหากไม่นับรวม 4Q64 ที่มีกำไรพิเศษที่เกิดจากควบรวมธุรกิจและการขายหุ้นบ.ย่อย จะเห็นการขยายตัวของกำไรราว +20%QoQ รับแรงหนุนจากรายได้จากการขายและบริการที่เติบโตทั้ง 7-11 และ Makro-Lotus ด้านทิศทางการดำเนินงานในช่วง 2Q65 เราคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวต่อทั้ง YoY QoQ จาก Traffic คนเดินทางที่ฟื้นตัวในเดือนเม.ย. – มิ.ย.65 รวมถึงแรงหนุนจากเทศกาล วันหยุดยาว เช่น สงกรานต์ ทั้งนี้ ปัจจุบัน เราประมาณการกำไรสุทธิของปี65 และ 66 อยู่ที่ 15,554 ลบ.(+19.78%YoY) และ 20,827 ลบ.(+33.90%YoY) ตามลำดับ



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X