> SET > CPALL

30 มิถุนายน 2022 เวลา 12:15 น.

จับทิศกำไร CPALL ปี 65-66 ราคานี้ชวนซื้อหรือยัง?

#ทันหุ้น - บล.ทรีนีตี้ จำกัด ส่องหุ้น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL คาดกำไรไตรมาส 2 ทรงตัว QoQ ที่ราว 3,500 – 3,600 ล้านบาท โดย SSSG คาดจะยังเติบโตได้ที่ 10% แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อบ้าง แต่บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ที่ราคาถูกลง แต่เน้นยอดขายที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะยังคงทำให้ Spending per ticket เพิ่มขึ้นได้ รวมถึงจากการเปิดประเทศ และการที่โรงเรียนกลับมาเปิดและพนักงานกลับมาเข้าออฟฟิศซึ่งช่วยเพิ่ม SSSG ให้กับบริษัท สำหรับแนวโน้ม 2H65 แข็งแกร่งกว่า 1H65 จากการยกเลิกมาตรการ Thailand Pass คาดว่าจะเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวใน 2H65 เพิ่มมากขึ้นซึ่งจะเพิ่มยอดขายของ 7-11 ที่อยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวหลักๆ (คิดเป็น 15% ของสาขาทั้งหมด) ประมาณการกำไรปี 2565 ที่ 14,351 ล้านบาท +10.5% และในปี 2566 ที่ 23,824 ล้านบาท +66% กลับเข้ามาสู่ระดับปกติก่อนช่วงโควิด แนะนำ“ซื้อ” ราคาเป้าหมายสิ้นปีที่ 72 บาทมี Upside ราว 18.5%

มองครึ่งปีหลังแข็งแกร่งถึงแม้จะมีปัจจัยเรื่องเงินเฟ้อ โดยเงินเฟ้อเป็นปัจจัยที่ผู้บริหารยังคงติดตามอย่าใกล้ชิด ผลกระทบหลักๆ จะอยู่ที่ต้นทุนการขายจากปัจจัยทางด้านพลังงานที่มาจากค่าไฟและราคาน้ำมัน ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าจะมีผลกระทบไม่มาก ปัจจุบันสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้าน utilities อยู่ที่ 8.5% (คิดเป็นค่าไฟและค่าน้ำมันประมาณ 5% และ 2% ของ consolidated SG&A Q1/65) ซึ่งการขึ้นของราคาน้ำมันดีเซลและค่าไฟคาดว่าจะมีผลกระทบต่อ SG&A สิ้นปีประมาณ 1.4%


เงินเฟ้อดันยอดขายผลิตภัณฑ์  "อิ่มคุ้ม” ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในช่วงที่ค่าครองชีพสูงแต่ด้วยตัวผลิตภัณฑ์ที่มี margin ต่ำ ทำให้ gross margin ของยอดขายอาหารโดยรวมลดลงเหลือ 26% (26.3% ใน Q1/64)แม้ว่า Margin อาจจะลดลง แต่ถูกชดเชยด้วย Spending per ticket ที่จะเพิ่มขึ้น


ประเมินแนวโน้ม Q2/65 SSSG จะยังเติบโตได้ที่ 10% และคาดว่าจะมีกำไรราว 3,500 – 3,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากมีช่วงวันหยุดเทศกาลเยอะ รวมถึงการกลับมาเรียนที่โรงเรียน และการกลับเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศ

แนวโน้ม 2H65 คาดว่าจะดีกว่า 1H65 จากการยกเลิกมาตรการ Thailand Pass คาดว่าจะเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวใน 2H65 ราว 4.8 ล้านราย ซึ่งจะเพิ่มยอดขายของ 7-11 ที่อยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวหลักๆ (คิดเป็น 15% ของสาขาทั้งหมด) ฝ่ายวิจัยประมาณการกำไรปี 2565 ที่ 14,351 ล้านบาท +10.5% และในปี 2566 ที่ 23,824 ล้านบาท +66% กลับเข้ามาสู่ระดับปกติก่อนช่วงโควิด


แนะนำ “ซื้อ” ราคา Fair Value สิ้นปี 2565 ที่ 72 บาท (อิงวิธี DCF ใช้ WACC 7%,TG 2.2%) โดยคาดว่าราคาปัจจุบันได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดย EV/EBITDA อยู่ระดับ Average 10 ปี –1.5 SD ระยะสั้น Q2/65 คาดกำไรออกมาใกล้เคียงกับไตรมาสแรกขณะที่ในระยะยาว ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไปมองภาพรวมพื้นฐานยังแข็งแกร่งมีโอกาสค่อยๆ ฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ รวมถึงการที่โรงเรียนกลับมาเปิดและพนักงานกลับมาเข้าออฟฟิศ



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X