> SET > CPF

01 กรกฎาคม 2022 เวลา 15:20 น.

ตั้งรับจุดไหน...ทํากําไรระยะยาว

#ทันหุ้น - บล.เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASPS มองเงินเฟ้อไทยมีแนวโน้มขึ้นไปแตะระดับ 10% ในช่วงไตรมาสที่ 3 ส่วนต่างดอกเบี้ยไทยสหรัฐกว้างขึ้นกดดันค่าเงินบาทอ่อน, FUND FLOW ยังไหลออกสำหรับกําไรงวด Q2/65 รับแรงกดจากเงินเฟ้อ และอาจหดตัวทั้ง YOY และ QOQ แนะสะสมเมื่อ SET ต่ำกว่า 1570 จุด หุ้นเด่น CENTEL CPN BEM CRC KTB TRUE CPF 


เดือน ก.ค. ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงกดดันต่อ จากประเด็นเงินเฟ้อเร่งขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากสินค้า-บริการเพิ่มขึ้น ขณะที่อุปทานในหลายส่วนของโลกยังกลับมาได้อย่างจํากัด ผสมกับภาวะที่สภาพคล่องส่วนเกินทางการเงินในประเทศพัฒนาแล้วมีอยู่เป็นจํานวนมาก ทําให้ราคาสินค้าบริการปรับเพิ่มขึ้น หนุนเงินเฟ้อประเทศพัฒนาแล้วอยู่ในช่วง 8-9% ขณะที่เงินเฟ้อไทยมีโอกาสขยับขึ้นตาม และอาจแตะระดับ10% ในเดือน ส.ค. 65 ได้ ทั้งจากมาตการช่วยเหลือราคาพลังงานจากภาครัฐทยอยลดลง และฐานคํานวณ CPI ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่บนฐานที่ต่ําต่อเนื่องถึงเดือน ส.ค. 64


ประเด็นเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น ถือเป็นอาการป่วยที่นําไปสู่การใช้ยาแรงอย่างการเร่งขึ้นดอกเบี้ย โดยตลาดคาดว่า Fed มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในเดือน ก.ค. 65 และณ สิ้นปี 2565 ถูกคาดหมายว่าจะอยู่ที่บริเวณ 3.5% นอกจากนี้ยังจะเห็นการปรับลดขนาดงบดุลของ Fed ที่เป็นรูปธรรมอีก โดยในช่วงเดือน มิ.ย. - ส.ค.65 จะมีการปรับลดในอัตรา 4.75 หมื่นล้านเหรียญ/เดือน ขณะที่ไทย กนง. จะมีการประชุมรอบเร็วสุด คือ 10 ส.ค.65 ซึ่งปัจจุบันจะเป็นช่วงเวลาที่เกิดสูญญากาศ หรือ อาจทําให้เกิด Spread หรือ ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยไทยกับสหรัฐกว้างขึ้นถึง 1.75% - 2% (ในอดีตตั้งแต่วิกฤตซับไพร์มกว้างสุดที่ 1%) กดดันค่าเงินบาทอ่อนค่า พร้อมกับเป็นชนวนให้ Fund Flow มีโอกาสไหลออกจากตลาดหุ้นต่อ


ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่นักลงทุนอาจต้องเตรียมรับมือ เริ่มจากราคา Commodity ต่างๆ มีโอกาสชะลอการปรับขึ้น จากการเร่งขึ้นดอกเบี้ย บวกกับในเดือน ก.ค. - ส.ค. กลุ่ม OPEC+ อาจปรับเพิ่มกําลังการผลิต 50% จาก 4.32 แสนล้านบาร์เรล/วัน เป็น 6.84 แสนล้านบาร์เรล/วัน กดดันหุ้นอิงกับราคา Commodity ไทยที่มีสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 3 จากทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีประเด็นการปรับพอร์ตของกองทุนไทยและต่างประเทศเพื่อเตรียมซื้อหุ้นประกันขนาดใหญ่ กดดันหุ้นกลุ่ม BANK, FIN, INSUR ในช่วงสั้นๆ


ส่วนมุมมองกําไร Q2/65 มีโอกาสลดลงทั้ง QoQ และ YoY สูงเนื่องจากฐานกําไรไตรมาสก่อน และช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับสูง บวกกับบริษัทจดทะเบียนที่ต้องรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ถือเป็นหนึ่งปัจจัยสําคัญที่ต้องติดตาม และอาจนําไปสู่การปรับประมาณการกําไรลงได้


ภาพความผันผวนดังกล่าว ฝ่ายวิจัยจึงทําการประเมินดัชนีรองรับแรงกดดันในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นในระดับต่างๆ ทําให้นักลงทุนสามารถประเมินกรอบการเข้าสะสมหุ้น เพื่อหวังผลในระยาวได้ง่ายขึ้น ซึ่งกรณีเลวร้ายสุด หากกนง.มีการขึ้นดอกเบี้ยทุกการประชุมใช่วงที่เหลือของปี (ขึ้น 0.75%) จะกดดันให้ P/E ที่เหมาะสมในการซื้อขายลดลงจาก 20.36 เท่า เหลือ 17.66 เท่า เมื่อนํามาคูณกับ EPS65F 88.9 บาท/หุ้น จะได้ระดับดัชนีรองรับแรงกดดันที่ 1570 จุด ดังนั้นหาก SET Index ลงมาต่ำกว่านี้ ถือเป็นจุดที่น่าทยอยสะสมหุ้น และกลยุทธ์การลงทุนเดือน ก.ค. 65 แนะนําทยอยสะสมหุ้น 3 กลุ่มที่คาดว่าจะ Outperform ตลาดได้ คือ 1) หุ้นกลุ่มเปิดเมือง CENTEL,BEM, CRC, CPN 2) หุ้นมีเกราะป้องกันเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้น KTB, TRUE 3) หุ้นได้ประโยชน์บาทอ่อนค่า CPF        


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X