#NER #ทันหุ้น – NERครึ่งปีหลังงบสดใส ออเดอร์ยางฟื้นตัว จีนคลายล็อกดาวน์หนุน อุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นแกร่ง รับประโยชน์ EV ราคายางแนวโน้มดี ออเดอร์ลูกค้าอินเดียเข้า คงเป้ารายได้ 28,000 ล้านบาท บิ๊ก NER ชูวิทย์ ทยอยซื้อหุ้นต่อเนื่อง โบรกชี้พี/อีสุดต่ำเพียง 5.1 เท่า ปันผลยิลด์ 6.2%
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก ปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้ยางพารากลับมาดีขึ้น ประเทศจีนมีการคลายล็อกดาวน์ รวมไปถึงอุตสาหกรรมยานยนต์น่าจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นอย่งชัดเจนในช่วงปลายปี 2565 รวมไปถึงการผลักดันนโยบายยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ทำให้เกิดการกระตุ้นของอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อราคายางพาราในปีนี้ ขณะเดียวกันบริษัทยังเดินหน้าในการเจรจาลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง ปีนี้ให้ความสำคัญกับลูกค้าอินเดีย ปัจจุบันมี 5 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าที่มีสัญญาระยะยาวมากขึ้น
*คงเป้ารายได้ปีนี้
บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้ที่ 28,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 24,456 ล้านบาท โดยไตรมาส 1/2565 ทำได้แล้วที่ 5,628 ล้านบาท ขณะที่ปริมาณการขายคาดว่าจะทำได้ 460,000 ตัน ส่วนแนวโน้มราคายางพารา ยังอยู่ในระดับที่ดี โดยปัจจัยราคายางอยู่ที่ระดับ 65 บาทต่อกิโลกรัม แม้ว่าอาจจะมีการปรับตัวลดลงไปบ้างตามราคาน้ำยางขั้น แต่ก็เป็นราคาที่กลับมาสู่ระดับปกติ
“แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวชัดเจน ออเดอร์ก็จะเพิ่มมากขึ้น จีนคลายล็อคดาวน์มากขึ้น อุตสาหกรรมยานยนต์ที่จะมีการฟื้นตัว คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจนในช่วงไตรมาส 4/2565 และบริษัทก็ยังมีการเจรจาลูกค้าต่อเนื่อง อย่างลูกค้าอินเดียที่ปัจจุบันก็มี 5 ราย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลประกอบการต่อไป และให้ความมั่นใจกับนักลงทุนต่อเนื่อง ในส่วนของผู้บริหารเองก็มีการเข้าลงทุนในหุ้นเพิ่มเติมด้วย” นายชูวิทย์ กล่าว
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง NER ว่า สมาคมประเทศผู้ผลิตยางพาราธรรมชาติ (Association ofNatural Rubber Producing Countries : ANRPC) ปรับเพิ่มประมาณการอุปสงค์ยางพาราธรรมชาติปี 2565 เป็น 14.64 ล้านตัน (+2.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน) จากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ในขณะเดียวกันคาดว่าอุปทานจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้ากว่าอุปสงค์ที่ 1.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็น 14.18 ล้านตัน เนื่องจากอุปทานในประเทศอินโดนีเซียลดลงเพราะการระบาดของโรคใบร่วง คาดว่าอุปสงค์จากอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 60% ของการใช้ยางพาราธรรมชาติ จะฟื้นตัวขึ้นจากที่มีการกลับมาเปิดเศรษฐกิจทั่วโลกอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มอุปสงค์การเปลี่ยนยางรถยนต์ และเมื่อประกอบกับคำสั่งซื้อล่วงหน้าสำหรับการผลิตรถยนต์หลังจากที่ปัญหาขาดแคลน Chip กำลังคลี่คลายลงไป น่าจะทำให้อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นใน
*เงินปันผลน่าสนใจ 6.2%
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าผลประกอบการใน ไตรมาส 2/2565 น่าจะใกล้เคียงกับในไตรมาส 1/2565 และคาดว่ากำไรจะแข็งแกร่งขึ้นใน ครึ่งปีหลัง 2565 ในขณะที่ Consensus คาดว่ากำไรสุทธิของ NER จะอยู่ที่ 2 พันล้านบาท ในปี 2565 ซึ่งเชื่อว่าบริษัทน่าจะทำได้เพราะกำไรสุทธิใน ในไตรมาส 1/2565 เพิ่มขึ้นถึง 28% เป็น 469 ล้านบาท ในขณะที่กำลังการผลิตใหม่ และธุรกิจใหม่ของบริษัทจะช่วยหนุนการเติบโตในครึ่งปีหลัง 2565
นอกจากนี้ Consensus ยังคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2566 จะเพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน เป็น 2.3 พันล้านบาท ทั้งนี้ ราคาหุ้น NER ปัจจุบันคิดเป็น PER ปี 2565 ที่ต่ำเพียง 5.1x (-0.5 S.D.) ซึ่งต่ำกว่าของหุ้นอื่นในกลุ่มผลิตยางที่ 6.0x ในขณะที่คาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของ NER จะน่าสนใจที่ 6.2% ในปี 2565
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม