> Trendtalk > OSP

22 กรกฎาคม 2022 เวลา 06:10 น.

OSP

#ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1540 หลังจากถูกขายทำกำไรในระยะสั้น ซึ่งเราแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะในการเข้าซื้อ เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1580 และ 1620 เนื่องจากโครงสร้างในระยะยาวมีการฟื้นตัวเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ OSP หรือ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิต ทำการตลาด และจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล และธุรกิจอื่นๆ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและลูกอม และธุรกิจให้บริการผลิตสินค้าและบรรจุภัณฑ์ (OEM)และธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ


ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 65  มีกำไรสุทธิ 749 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.25 บาท ลดลง เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 64 ที่มีกำไรสุทธิ 1,004 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.33 บาท


นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โอสถสภา (OSP) เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารกลางเมียนมาประกาศคำสั่งไปยังภาคเอกชนให้ระงับชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยแก่เจ้าหนี้ในต่างประเทศนั้น มาตรการดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ โอสถสภา ในเมียนมา โดยบริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ อีกทั้งการลงทุนในเมียนมา เป็นการทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินในประเทศไทยและสถาบันการเงินในประเทศเมียนมา ทั้งนี้ การชำระหนี้จะมีการเจรจากันภายใต้เงื่อนไขและข้อตกลงระหว่างบริษัทฯ และสถาบันการเงินต่อไป ถึงแม้ว่าจะสถานการณ์ทางการเงินจะมีความผันผวนด้านค่าเงินหรืออัตราการแลกเปลี่ยน แต่ธุรกิจของบริษัทฯยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันนี้การซื้อขายในเมียนมาสามารถทำได้ในหลายสกุลเงินมากขึ้น ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการทางการเงินได้หลากหลายมากขึ้น เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป


บริษทตัดสินใจขยายธุรกิจลงทุนเปิดโรงงานที่เขตเศรษฐกิจพิเศษติละวามาตั้งแต่ปี 63 หลังได้ริเริ่มทำการค้ากับเมียนมาเป็นเวลากว่า 25 ปี เละได้เริ่มศึกษาวางแผนธุรกิจเป็นเวลานานนับสิบปีก่อนตัดสินใจลงทุนเปิดโรงงาน


นางพรธิดา บุญสา ประธานฝ่ายปฏิบัติการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงิน บมจ.โอสถสภา (OSP) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงช่วยผลักดันให้ยอดขายของบริษัทมีโมเมมตัมดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Drinks) มียอดขายเติบโต 3.6% ในไตรมาส 1/65ซึ่งในแง่จำนวนเงินถือว่าเติบโตมาก และจะเป็นตัวผลักดันการเติบโตของบริษัท และในไตรมาส 2/65 อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ดีขึ้นจากการออกสินค้าใหม่ โดยเฉพาะเครื่องดื่มชูกำลัง เอ็ม150 สูตรใหม่ ราคา 12 บาทเมื่อปลายเดือนเม.ย.65 ซึ่งเป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่เข้ามาเสริมพอร์ตที่มีอยู่ โดยบริษัทคาดว่าภายใน 1-2 ปีจะมียอดขายสินค้าพรีเมี่ยมอย่างน้อย 75% ของเครื่องดื่มชูกำลังทั้งหมด


อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ยังมีเครื่องดื่มชูกำลังราคา 10 บาทเป็นทางเลือกอยู่แล้ว คาดว่าส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของ OSP ในปีนี้น่าจะยังรักษาไว้ได้ โดย ณ สิ้นเดือน มี.ค.65 เครื่องดื่มเอ็ม 150 มีส่วนแบ่งตลาด 39.5%


สำหรับเครื่องดื่มน้ำกัญชาน้ำตาล 0%เป็นสินค้าออกใหม่ที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่เพิ่งออกสู่ตลาดได้รับการตอบรับที่ดีกว่าที่คาดไว้ ซึ่งบริษัทเองมองว่าเป็นสินค้าที่แนวโน้มเติบโตดี และบริษัทจะเร่งการผลิตให้มากขึ้น


ขณะที่ต้นทุนก๊าซธรรมชาติสูงขึ้นที่กระทบต้นทุนการผลิตของบริษัทนั้น นางพรธิดา กล่าวว่า บริษัทมีสัญญาระยะยาวซื้อก๊าซกับ บมจ.ปตท. (PTT) และบริษัทยังมีนโยบายลดการใช้พลังงาน อาทิ การปรับเปลี่ยนมาใช้ light bottle และ การใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งจากโซลาร์รูฟท็อป และโซลาร์เซลล์


ทั้งนี้ ต้นทุนการผลิตของบริษัทหลักเป็นก๊าซและน้ำมัน รองลงมาวัตถุดิบการผลิตที่ได้ล็อกราคาเป็นเงินบาทไว้แล้ว โดยในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุน 1,500 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้ในการลดการใช้พลังงาน ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ได้ 5พันล้านบาทภายใน 5-7 ปีนี้


ในไตรมาส 1/65 สินค้าในกลุ่ม OSP ยังสามารถครองส่วนแบ่งตลาดไว้ได้ ได้แก่ เครื่องดื่มชูกำลัง มีส่วนแบ่ง 54% (ลดลง 90 bps YoY) ของมูลค่าตลาดรวมที่ 1.9หมื่นล้านบาท ลดลง 5.3% Functional Drinks มีส่วนแบ่งตลาด 42.6% (เพิ่มขึ้น 770 bps YoY) ของมูลค่าตลาดรวม 8,200 ล้านบาท ลดลง 1.6% จากปีก่อน และ Personal Care มีส่วนแบ่งตลาด 34.0% (เพิ่มขึ้น 60 bps YoY) ของมูลค่าตลาดรวม 1,300 ล้านบาท ลดลง 0.3%

ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง และจุดต่ำสุดเดิมที่บริเวณ 31.00 หลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันลงไป แต่เราคาดว่า แนวโน้มของราคาหุ้นน่าจะมีโอกาสฟื้นตัวเหนือแนวรับสำคัญกลับขึ้นไป โดยมีแนวต้านที่ 33.00 และ 34.00 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 30.00 ลงไป จะเป็นสัญญาณขายหุ้นออกไปก่อน



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X