> Trendtalk > SCB

25 กรกฎาคม 2022 เวลา 06:20 น.

SCB

#SCB #ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเข้าใกล้แนวต้านที่ 1560 หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1530 และมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1580


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ SCB หรือ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจ ธนาคารพาณิชย์ เป็นบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลัก


ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 65 มีกำไรสุทธิ 10,050 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 3.01 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 64 ที่มีกำไรสุทธิ 8,814 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.59 บาท


ส่วนผลการดำเนินงาน 6 เดือนของปี 65 มีกำไรสุทธิ 20,094 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 5.97 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน6 เดือนของปี 64 ที่มีกำไรสุทธิ 18,902 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 5.56 บาท


SCB เปิดเผยว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 2/65 จำนวน 10,051 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองมีจำนวน 22,764ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลของการขยายตัวของฐานรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ สำหรับครึ่งปีแรกของปี 65 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 20,095 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน


ในไตรมาส 2/65 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 26,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้และการมุ่งเน้นการเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม


รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 12,634 ล้านบาท ลดลง 2.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงผลกระทบของสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งและการลดลงของรายได้จากการลงทุน ทั้งนี้ รายได้จากธุรกรรมทางการเงินปรับตัวดีขึ้นภายหลังการเปิดประเทศ ส่งผลให้รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยโดยรวมลดลงเพียงเล็กน้อย


ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 15,938 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากกิจกรรมทางธุรกิจโดยรวมที่เพิ่มขึ้น แต่ที่สำคัญอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 41.2% ในไตรมาส 2/65


ธนาคารได้ตั้งเงินสำรองในไตรมาส 2/65 จำนวน 10,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นจากปัจจัยภายนอกและอัตราเงินเฟ้อระดับสูง


อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.65 อยู่ที่ 3.58% ปรับตัวลดลงจาก 3.70% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพยังอยู่ในระดับสูงที่ 153.3% (เพิ่มขึ้นจาก 143.9% ณ สิ้นเดือน มี.ค.65) และเงินกองทุนตามกฎหมายยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.7%


นายมาณพ เสงี่ยมบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) เปิดเผยว่า แนวโน้มของผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก และเห็นการฟื้นตัวกลับมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่มีปัจจัยหนุนหลักจากธนาคารไทยพาณิชย์ ที่แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อในช่วงครึ่งปีน่าจะเติบโตขึ้นสูงกว่าครึ่งปีแรก หลังจากช่วงครึ่งปีแรกสินเชื่อเติบโต 3% เชื่อว่าทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้ว่าสินเชื่อจะเติบโต 3-5%


สาเหตุที่คาดว่าสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตขึ้นมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากโควิด-19 คลี่คลาย ทำให้มีความต้องการสินเชื่อในกลุ่มลูกค้ารายย่อยกลับมา รวมถึงความมั่นใจของผู้ประกอบการต่างๆที่มีมากขึ้น ทำให้ธนาคารมองว่าในครึ่งปีหลังนี้กลุ่มสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่จะเห็นการเติบโตอย่างโดดเด่น จากการเบิกใช้สินเชื่อเพื่อรองรับการลงทุน เป็นปัจจัยหนุนการเติบโตให้กับสินเชื่อของธนาคารในครึ่งปีหลังได้อย่างมีนัยสำคัญ


ขณะเดียวกันทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นส่งผลบวกต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่จะเห็นการปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ม่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานของธนาคารและเป็นปัจจัยหนุนให้กับผลการดำเนินงานของบริษัท


รวมถึงแนวโน้มของสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่มีแนวโน้มปรับตัวลงต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังโควิด-19 คลี่คลาย คนสามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ มีรายได้และกลับมาชำนะคืนหนี้ได้ตามปกติ ส่งผลให้แนวโน้มของ NPL ลดลงต่อเนื่อง แม้ว่าธนาคารจะมีการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกก็ตาม แต่เป็นการตั้งสำรองฯเพื่อป้องกันความเสี้ยงจากปัจจัยภายนอกที่มีความไม่แน่นอน ทำให้ธนาคารยังมีการป้องกันความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ รวมถึงรักษาเสถียรภาพของธนาคารให้อยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 97.00 หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 90.00 ตามกรอบแนวโน้มขาลง ในขณะที่แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 102 เป็นแนวต้านสำคัญ ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 110 โดยมีแนวรับที่ 94.00 และ 92.00 เป็นจังหวะในการเข้าซื้อ



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X