> SET > CBG

23 กรกฎาคม 2022 เวลา 12:29 น.

จับตาธุรกิจโชห่วยแข่งเดือด หลัง KBANK จับมือกลุ่มคาราบาวลุย"ร้านถูกดี"

#ทันหุ้น-บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่าการที่ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK ได้ร่วมกับกลุ่ม คาราบาวกรุ๊ป ได้ร่วมจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อให้บริการทางการเงินแก่ผู้บริโภครายย่อยและร้านค้าของบริษัทในกลุ่มธุรกิจคาราบาว นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจการเงินของธนาคารอยู่ระหว่างเตรียมร่วมลงทุนกับบริษัท ทีดี ตะวันแดง ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจคาราบาวเช่นกัน เพื่อพัฒนาร้านค้าปลีก "ร้านถูกดี มีมาตรฐาน" ฝ่ายวิจัยมองว่าเป็นการส่งสัญญาณต่อสภาพการแข่งขันในธุรกิจโชห่วยในอนาคตจะรุนแรงขึ้น กระทบหลักๆ กับผู้ประกอบการที่ขายสินค้าในชีวิตประจำวัน (BJC, MAKRO, CPALL) โดยเฉพาะ BJC และ MAKRO ที่กำลังขยายเครือข่ายในลักษณะคล้ายกันภายใต้ชื่อร้านโดนใจ (พันธมิตร BIG C)และร้านนี้ขายดี (พันธมิตร โลตัสส์) 


ในขณะที่ CPALL คาดจะกระทบจำกัดสุดตามรูปแบบร้านที่มีระบบอำนวยสะดวกมากกว่าและเครื่อข่รยที่มี 1.34 หมื่นสาขา มากสุดในกลุ่มค้าปลีก 


ฝ่ายวิจัยโนมูระ พัฒนสิน มีมุมมองต่อการที่ KBANK ได้ร่วมกับบริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ CBG เพื่อจัดตั้งบบริษัทร่วมทุนใหม่ บริษัท กสิกร คาราบาว จำกัด หรือ KBAO นั้น เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการด้านการเงิน และพิจารณาสินเชื่อเงินกู้ยืม แก่เจ้าของร้านค้าปลีกที่เป็นลูกค้าของบริษัท และพันธมิตรทางธุรกิจหรือผู้เช่าพื้นที่ในร้านบริษัท ซี.เจ เอ็กเพรส กรุ๊ป จำกัด หรือ CJ และผู้ประกอบการร้านค้าปลีกในเครือข่ายของบริษัท ทีดี ตะวันแดง หรือ TD ในเบื้องต้นจะมีสินเชื่อสนับสนุนจากความร่วมมือดังกล่าว 1.5 หมื่นล้านบาท 


ฝ่ายวิจัย มองบวกต่อการร่วมทุนดังกล่าว โดยมองจุดประสงค์หลักอิงตามการถือหุ้นในกลุ่ม ผู้ถือหุ้นมากสุดคือ TD ซึ่งประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกชุมชน ภายใต้ชื่อ"ถูกดีมีมาตรฐาน" เพื่อช่วยแหล่งเงินทุนให้กับร้านค้าเหล่านี้ ขณะที่ CBG จะได้ประโยชน์ทางอ้อมตามมาจากความแข็งแกร่งของร้านเหล่านี้ที่มีมากขึ้น ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและช่องทางการจำหน่ายของกลุ่มเพิ่มขึ้น


ด้านผลต่อประมาณการ CBG จะถือหุ้น 7.5% ใน KBAO และคาดว่าจะรับรู้รายได้ผ่านทางปันผล เบื้องต้นหากอิงสินเชื่อมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ที่ KBANK จะสนับสนุนคาดจะสามารถประเมานเป็นกำไรสุทธิทั้งปีคร่าวๆ ได้ราว 384 ล้านบาท 


ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 2565 ของ CBG เท่าเดิมที่ 3,680.8 ล้านบาท แม้มี downside ราว 15% จาก Gross margin ที่ต่ำลงจากแรงกดดันด้านต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น แต่มองราคาเป้าหมายในเบื้องต้นคงเดิมที่ 118 บาทต่อหุ้น โดยยังคงแนะนำซื้อเก็งกำไร เพราะมองว่าราคาหุ้นปัจจุบันได้ตอบรับปัจจัยลบไปมากแล้ว และสถานการณ์ปัจจุบันที่ผ่อนคลายมากขึ้น อีกทั้งต้นทุนอลูมิเนียมปรับลงมาก ขณะที่สามารถเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในประเทศได้  


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X