เทียบฟอร์ม 2 หุ้นนิคมอุตฯ AMATA VS WHA ในมุมมอง"โนมูระ พัฒนสิน"

#ทันหุ้น-บล.โนมูระ พัฒนสิน ในวันนี้ได้มีมุมมองในหุ้นนิคมอุตสาหกรรม 2 บริษัทได้แก่หุ้นบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA และหุ้นบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ WHA ซึ่งทั้ง 2 แห่งจะมี Sentiment บวกจาก Geopolitical risk จีน-ไต้หวัน สะท้อนความไม่แน่นอนและความจำเป็นในการกระจายการลงทุน รวมถึงเงินเยน เริ่มแข็งค่าจิตวิทยาบวกต่อการกลับมาลงทุนในไทย

ฝ่ายวิจัยโนมูระ พัฒนสิน ให้ราคาเป้าหมายหุ้น AMATA ที่ 25 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 2/65 จะลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากธุรกิจโรงไฟฟ้าที่อ่อนแอ แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/65 เพราะคาดว่ามีการโอนที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 75-100 ไร่ โดยคาดว่ากำไรปกติทั้งปี 2565 จะอยู่ที่ 1,561 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% มีปัจจัยหนุนจากรายได้จากการขายที่ดินเพิ่มขึ้น เพราะโอนที่ดินได้มากขึ้น ทั้งในไทยและเวียดนาม, รายได้จากการให้บริการและสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้น จากจำนวนลูกค้าในนิคมที่เพิ่มขึ้น

โดยคาดว่าในปี 2565-2566 นักลงทุนมีแนวโน้มเยี่ยมชมพื้นที่มากขึ้น ทำให้ยอด Pre-sales และ Transfer มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความสำเร็จในการเปิดนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ในเวียดนามต่อยอดการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

ส่วนหุ้น WHA ให้ราคาเป้าหมายที่ 4.20 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่ากำไรทั้งปี 2565 อยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท เติบโต 28% จากปีก่อน รับผลบวก ตามการเปิดเมือง หนุนยอดขายที่ดินมาที่ 850 ไร่ (ยังต่ำกว่าเป้าที่บริษัทกำหนด 1,250 ไร่) พร้อมกับธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ฟื้นตัวเช่นกัน(พื้นที่เช่า, สาธารณูปโภค, การขายทรัพย์เข้ากอง) โดยโมเมนตัมคาดกำไรไตรมาส 2/65 อ่อนตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน และต่ำกว่าไตรมาสก่อน เนื่องจากไม่มีกำไรพิเศษเหมือนในไตรมาส 1/65 แต่เชิงกำไรหลักการขายที่ดินคาดทำได้ดี และมีโอกาสโอนที่ดินแปลงใหญ่ 200 ไร่

ขณะที่ราคาซื้อขายหุ้น WHA ปัจจุบันอยู่ระดับต่ำกว่าช่งก่อนโควิด-19 ราว 21% โดยมีค่าพี/อี เรโช 14 เท่า และมองว่าเป็นหุ้น Reopening laggard และเติบโต ตามอุตสาหกรรม E Commerce และ Logistic