> SET > BGRIM

15 สิงหาคม 2022 เวลา 07:30 น.

BGRIMจ่ายไฟเพิ่ม ต้นทุนลด-เอฟทีดัน

#BGRIM #ทันหุ้น – BGRIM ผลงานฟื้นจ่ายไฟเพิ่มต่อเนื่อง ชูรายได้รวม Q2 เพิ่ม 27.9% กำไรฟื้นแล้ว ต้นทุนก๊าซลดลง เตรียมนำเข้า LNG ต้นปีหน้า เพิ่ม Ft หนุน ชี้ 4 โครงการโรงไฟฟ้าทดแทนคืบ 80-92% ใกล้จ่ายไฟครึ่งปีหลัง เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง ปันผล 0.03 บาท โบรกชี้พ้นจุดต่ำ ครึ่งหลังจะโดดเด่นกว่าตลาด เป้า 45 บาท ไม่รวมโครงการเพิ่ม


ดร.ฮาราลด์  ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2565 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 14,676 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยบวกจาก 1. ราคาขายไฟฟ้าต่อหน่วยให้แก่ กฟผ. เพิ่มขึ้น 2. ปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม (Industrial User : IU) เติบโตอย่างต่อเนื่อง 5.1% จากทั้งลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่จำนวน 32.3 เมกะวัตต์ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 และ 3. การเติบโตจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว รวมถึง 4.การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ ในไทย เมื่อเดือนสิงหาคม 2564


ด้านกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน-ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 147 ล้านบาท ลดลง 85.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้น 76.6% ของราคาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ซึ่งคิดเป็น 20.7% ของรายได้รวม แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 332.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) จากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง 4.6% และผลบวกจากการปรับขึ้นของค่าไฟฟ้าตามสูตร (ค่า Ft) ทั้งนี้จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้มีการบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสดและเป็นการบันทึกตามมาตรฐานบัญชี ทำให้บริษัทบันทึกผลขาดทุนสุทธิในไตรมาสนี้


@ต้นทุนลด-เอฟทีเพิ่ม


สำหรับแนวทางการบริหารจัดการต้นทุน จากราคาก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้น BGRIM จะเริ่มนำเข้า LNG ในต้นปี 2566 ซึ่งบริษัทได้ลงนามสัญญาการใช้ Terminal กับ PTT LNG เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้บริษัทยังได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้น ค่า Ft ทุกๆ 4 เดือน โดยในเดือนกันยายน - ธันวาคม 2565 กกพ. มีมติประกาศปรับขึ้นอีก 0.6866 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็น 0.9343 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง


"การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้า SPP เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและประสิทธิภาพสูง การขยายฐานลูกค้าอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง และการควบคุมค่าใช้จ่าย จะเป็นปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วงเวลาที่เหลือของปี และตลอดช่วง 12 เดือนข้างหน้าของบริษัท"


@ 4 โครงการจ่ายไฟปีนี้


สำหรับความคืบหน้าของโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในปีนี้ มีอีกหลายโครงการ ประกอบด้วย การก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า SPP 4 โครงการ (ABP1R, ABP2R และ BGPM1&2R) เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม กำลังผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมด 560 เมกะวัตต์ มีความคืบหน้า 80-92% มีกำหนดการ COD ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 นอกจากนี้ ยังมีการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ 2 โครงการ กำลังผลิตไฟฟ้ารวม 280 เมกะวัตต์ มีความคืบหน้า 33-47% กำหนดการ COD ในปี 2566 และการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน อู่ตะเภา เฟสแรก มีความคืบหน้า 73% กำหนดการ COD ในปี 2566


ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 56 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวมที่ 3,379 เมกะวัตต์ โดยยังคงเป้าหมายการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 7,200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 และ 10,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2573 ควบคู่กับเป้าหมายก้าวสู่องค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในปี ค.ศ. 2050 (ปี พ.ศ. 2593) โดย BGRIM มีเงินสดในมือกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2565 หนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 1.8 เท่า


ทั้งนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.03 บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2565 กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 25 สิงหาคม 2565 และวันที่จ่ายปันผล 9 กันยายน 2565


@ BGRIM จะเด่นกว่า SET


ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า BGRIM ประกาศกําไรปกติไตรมาส 2/2565 ที่ 147 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่ประเมิน โดยฟื้นตัวได้ QoQ จากต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติที่ปรับลดเล็กน้อยราว 5% มาอยู่ที่ 422 บาทต่อmmBTU และค่า Ft ซึ่งปรับขึ้นในงวดพฤษภาคม – สิงหาคม +0.23 บาทต่อหน่วย ทําให้อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวขึ้นมาที่ 12% เรายังคงประมาณการกําไรปกติปี 2565 ที่ 812 ล้านบาทลดลง 67% และคงมุมมองกําไรครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวต่อเนื่อง มีปัจจัยหลักคือการปรับค่า Ft ขึ้นในช่วงที่เหลือของปีและมีแนวโน้มต่อเนื่องไปในปี 2566 ในขณะที่ค่าก๊าซธรรมชาติคาดไม่อยู่สูงกว่าครึ่งปีแรกที่ระดับ 450 บาทต่อmmBTU อย่างมีนัยสำคัญ


ทั้งนี้ราคาหุ้นกลับมาดีกว่า SET ในช่วง 3 เดือนกว่าเพิ่มขึ้น +25% จากแนวโน้มผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดจากผลกระทบค่าก๊าซธรรมชาติ ประเมินราคาหุ้นจะ Outperform SET ต่อจากแนวโน้ม ผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีจากปัจจัยการปรับค่า Ft ขึ้น นอกจากนี้การลงทุน โครงการใหม่เพิ่มเติมยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อหนุนการเติบโตซึ่งบริษัทตั้งเป้า M&A เพิ่มเติมไม่ต่ำ กว่า 1GW ในปีนี้ (คาดเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่) เป็นอีกปัจจัยสำคัญ หากสําเร็จเป็น Upside ที่จะเกิดขึ้นราคาเป้าหมาย 45.00 บาท


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X