> Trendtalk > MAKRO

08 กันยายน 2022 เวลา 06:10 น.

MAKRO

#ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางภาพรวมของตลาดหุ้นต่างประเทศไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1635 บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น DELTA อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาการปรับตัวลดลงของหุ้นในกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK BBL ทำให้แนวโน้มในภาพรวมยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง ถ้าหลุดแนวรับที่ 1625 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 1610 และ 1600


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ MAKRO หรือ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสด และบริการตนเอง ภายใต้ชื่อ "แม็คโคร" ในการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ได้แก่ กลุ่มร้านค้าปลีกรายย่อย กลุ่มโฮเรก้า กลุ่มสถาบันต่างๆ และกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจบริการ


ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 65 มีกำไรสุทธิ 1,572 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.15 บาท กำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 มีกำไรสุทธิ 1,287 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.27 บาท


ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 65 มีกำไรสุทธิ 3,623 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.34 บาท กำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 มีกำไรสุทธิ 3,020 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.63 บาท


นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) เปิดเผยว่า แนวโน้มของธุรกิจค้าส่งในกลุ่มของ MAKRO ช่วงไตรมาส 3/65 ยังเห็นการเติบโตที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. 65 ที่ผ่านมายอดขายเติบโตแล้ว 10% และในช่วงต้นเดือนก.ย.นี้ ยังคงเห็นแนวโน้มที่ดีของยอดขายที่มาจากสาขาของ MAKRO เติบโตใกล้เคียง 10% จากการที่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าหลักกลับมาเปิดธุรกิจตามปกติ และการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัว ทำให้มีการสั่งซื้อสินค้าจากสาขาของ MAKRO เข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม ธุรกิจจัดเลี้ยง และสปา เป็นต้น


ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4/65 หรือในช่วงไตรมาส 1/66 คาดว่าจะมีปัจจัยหนุนที่เข้ามาสนับสนุนยอดขายให้กับธุรกิจค้าส่ง จากบริการทางด้านออนไลน์ที่บริษัทได้เพิ่มเริ่มเปิดให้บริการไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทที่ต้องการต่อยอดการขายจากร้านสาขา MAKRO ไปยังช่องทางอื่นๆ เพื่อต่อยอดการเติบโตของยอดขายนอกสาขา


อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในช่วง 1-2 ปีนี้ยังคงเป็นช่วงที่บริษัทมีการวางรากฐานในการพัฒนาและแพลตฟอร์มต่างๆในกลุ่ม เพื่อทำให้สามารถขยายและต่อยอดการให้บริการต่างๆได้มากกว่าการขายเฉพาะในสาขา และเพิ่มความสะดวกในการให้บริการแก่ลูกค้า รวมถึงสามารถขยายฐานลูกค้าออกไปได้มากขึ้น ทำให้บริษัทยังคงต้องมีการลงทุนด้านระบบและเทคโนโลยีอย่างมาก ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการลงทุนยังอยู่ในระดับสูง การทำกำไรอาจจะยังไม่เห็นผลชัดเจนในช่วง 1-2 ปีนี้ แต่จะเห็นยอดขายที่เติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นสิ่งแรกก่อน


แนวโน้มของธุรกิจค้าปลีกในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเห็นยอดขายพลิกกลับมาเป็นบวกได้ จากครึ่งปีแรกหดตัวลงราว 1% จากการที่เป็นช่วงเริ่มกลับมาเปิดเมืองและเปิดประเทศอย่างเต็มที่ ทำให้ยอดขายค่อยๆเห็นการฟื้นตัวกลับมาทั้งสาขาในไทยและมาเลซีย ซึ่งในช่วงเดือน ก.ค. มาถึงปัจจุบัน ยอดขายสาขาเดิมของโลตัส (SSSG) ได้กลับมาเป็นบวกขึ้นแล้ว โดยเพาะในประเทศไทยที่สามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้ และยอดขายในมาเลเซียยังมีการเติบโตกลับมาในระดับที่สูง


ขณะเดียวกันในส่วนของพื้นที่เช่าของสาขาโลตัส ได้มีแนวโน้มที่ดีกลับมาต่อเนื่อง จากผู้เช่าต่างๆเริ่มกลับมาเช่าพื้นที่เปิดร้านค้ามากขึ้น โดยที่ปัจจุบันอัตราการเช่าพื้นที่ในสาขาของโลตัสได้ปรับเพิ่มมาที่ 91-92% จากช่วงไตรมาส 2/65 ที่ 89% สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวและความมั่นใจของผู้ประกอบการต่างๆที่เห็นแนวโน้มที่ดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนุนที่สำคัญที่สร้างการเติบโตให้กับโลตัสในปีนี้


นอกจากนี้ในส่วนของการขายผ่านช่องทางออนไลน์ยังคงเห็นการสั่งซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งบริการ Next Day Delivery และ On Demand ซึ่งคาดว่าจะเห็นปริมาณการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์สูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และทำให้สัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ของโลตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 4%


ปัจจุบันทีมบริหารของ MAKRO อยู่ระหว่างการนำเสนอให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MAKRO พิจารณาในเรื่องการเพิ่มสภาพคล่องของหุ้น (Free Float) เพิ่มขึ้นไปที่ระดับ 15% ซึ่งจำเป็นที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ในกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์จะต้องมีการพิจารณาในการขายหุ้นออกมา เพื่อทำให้หุ้น MAKRO มีสภาพคล่องมากขึ้น เป็นไปตามเกณฑ์ที่บริษัทต้องการเข้าสู่การคิดคำนวณในดัชนี DJSI และการเป็นบริษัทที่ยั่งยืน ซึ่งยังคงต้องรอการพิจารณาจากผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 35.00-35.25 ขึ้นไป หลังจากปรับตัวลดลงไปสร้างฐานที่บริเวณ 34.00 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 37.50 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 39.00



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X