#NER #ทันหุ้น - NER มีเสน่ห์กับกองทุน เร่งเดินหน้ายกระดับบริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน ล่าสุดตรวจสอบสถานะคาร์บอนแล้ว พร้อมเซ็นซัพพลายเออร์ปลูกยางดูดคาร์บอนเครดิต ปักธงความเป็นกลางทางคาร์บอนปี 2040 พร้อมเป้าหมายสูงเข้า DJSI โบรกชูเป็นโอกาสสะสม เป้าหมายสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 10.50 บาท

นางสาวเกศนรี จองโชติศิริกุล รองประธานเจ้าหน้าบริหารสายงานการตลาด บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าในเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ผ่านมาได้ขึ้นทะเบียนเพื่อตรวจสอบสถานะการปล่อนคาร์บอนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) แล้ว ซึ่งการปล่อยคาร์บอนของบริษัทมีอยู่ 3 สโคป คือ 1 การปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต โดยในสิ้นปี 2564 มีการปล่อยอยู่ที่ 9,063 ดันคาร์บอน เป็นระดับที่ไม่สูงเทียบกับการผลิตที่เกิดขึ้น 2.การใช้พลังงานไฟฟ้า มีการปล่อยคาร์บอนอยู่ที่ 16,814 ตันคาร์บอน และ3 กระบวนการโลจิสติกส์ตั้งแต่ซัพพลายถึงปลายน้ำ มีการปล่อยคาร์บอนอยู่ราว 92,985 ตันคาร์บอน

@มุ่งลดคาร์บอนไว

ดังนั้นบริษัทจึงเตรียมเซ็นสัญญากับซัพพลายเออร์ปลูกยางเพื่อที่จะนำคาร์บอนเครดิต มาลดการปล่อยคาร์บอนเครดิตของกลุ่มบริษัท ซึ่งในการวัดคาร์บอนเครดิตจะมีการทำงานร่วมกับ การยางแห่งประเทศไทยด้วย ทั้งนี้คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 1-2 ปี เพื่อดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้ได้ตัวเลขที่ชัดเจน

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีซัพพลายเออดร์อยู่ 200-300 ราย ทั้งกลุ่มสหกรณ์การเกษตร ลูกค้ารายใหญ่ รายย่อย ซึ่งแต่ละรายจะต้องมีการขึ้นทะเบียนกับการยางเพื่อที่จะปลูกยางด้วย ซึ่งซัพพลายเออร์ที่ปลูกยางตามแนวทางการลดคาร์บอนก็จะได้ค่าพรีเมียมเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังสามารถขายคาร์บอนเครดิตให้บริษัทได้ด้วย ทั้งนี้มีเป้าหมาย "Carbon Neutrality" หรือ ความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี 2040 และเป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ปี 2060

@เย้ายวนกองทุน

นางสาวเกศนรี กล่าวว่า ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจะการลดคาร์บอนนั้น จะเป็นโอกาสให้บริษัทสามารถได้เปรียบในการแข่งขัน โดยขณะนี้ผู้ประกอบการในกลุ่มประเทศยุโปรได้ถามแผนมาบ้างแล้ว ขณะเดียวกันจะช่วยได้รับโอกาสจากลูกค้ารายใหญ่ในการค้าได้อีกมาก นอกจากนี้ยังจะทำให้นักลงทุนสถาบันหันมาสนใจหุ้นของบริษัทมากขึ้น เพราะมีการส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับไปกับการทำกำไรของธุรกิจ

“ธุรกิจยางพาราเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ อาจจะมีพี/อีในระดับหนึ่ง ดังนั้นการเดินหน้าเรื่องความยั่งยืนจะช่วยทำให้กองทุนซึ่งเน้นด้านความยั่งยืนจำนวนมาก ให้หันมาสนใจด้วย และจะช่วยทำให้ค่าพี/อีเพิ่มขึ้นได้ โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะติดอันดับในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI)”

@ เดินหน้า ESG

นอกจากนี้บริษัทยังเดินหน้าในการทำเรื่องขององค์กรอย่างยั่งยืน ซึ่งย่อมาจาก Environment, Social, และ Governance หรือ ESG ด้วย  จะแบ่งเป็น 3 ส่วนในส่วนของ E เดินหน้าในเรื่องของการใช้พลังงานสะอาด เป็นต้น ส่วน S มีการเข้าไปช่วยเหลือสังคม อย่างเช่น การดำเนินการในเรื่องของการ ทำห้องสมุด รวมไปถึงทำสารปรับปรุงดิน  และส่วนของ G มีการดำเนินการมาอยู่แล้ว อย่างการมีอินโนเวชั่น การใช้ความสำคัญกับ สวัสดิการพนังงานใส่ใจการทำงาน ใส่ใจกับซัพพลายเออร์ และคู่ค้า

@โอกาสเข้าสะสม

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง NER ว่ากำไรปกติ ครึ่งปีแรก 2565 อยู่ที่ 883 ล้านบาท ทรงตัว จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้มีผลกระทบจากการล็อกดาวน์ของจีนในปีนี้ ทั้งนี้กำไรดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 44% ของประมาณการกำไรทั้งปี จึงยังคงประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2565 ที่ 2,025 ล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดปี 2566 กำไรปกติเติบโต 10.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อนเป็น 2,243 ล้านบาท ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วยพีอีปี 2565-2566 ที่ต่่ำเพียง 5.1 เท่า และ 4.6 เท่า ตามลำดับ คาดเงินปันผลทั้งปี 2565 ที่ 0.46 บาทต่อหุ้น (ประกาศงวด ครึ่งปีแรก 2565 ที่ 0.07 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 23 ส.ค.) ให้ผลตอบแทนทั้งปีที่ 7.8% จึงยังคงคำ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 10.50 บาท มองว่าผ่านช่วงที่แย่ที่สุดไปแล้ว เป็นโอกาสสะสม

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1