#SET #ทันหุ้น - บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index แกว่ง Sideways ได้แข็งแรงกว่าภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ภาพรวมตลาดขาดปัจจัยใหม่และยังคงตอบรับกับแรงกดดันของผลการประชุม FED ที่มีแนวโน้มดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวเร็วและนานขึ้น ส่งผลให้ Bond Yield สหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์ขยับขึ้นต่อเนื่องกดดันกระแสเงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตามเรายังเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังคงอานิสงส์บวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่เป็นขาขึ้นใน 2H22-2023 ตามการ Reopening เปิดประเทศและการถอด COVID-19 ออกจากโรคติดต่ออันตราย คาดยังหนุนให้กระแสเงินทุนทยอยกลับมาไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในระยะกลาง-ยาว และช่วยลดแรงกดดันของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าแรงในปัจจุบัน

หุ้นในกลุ่ม Domestic และ Reopening Play คาดยังแกว่งตัวได้แข็งแรงกว่าตลาด รวมถึงแนวโน้มกนง.ที่คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยทั้ง 2 การประชุมที่เหลือของปี คาดหนุนกลุ่มธนาคารให้ Outperform ในระยะนี้ นอกจากนี้หากจังหวะดัชนีพักตัวลงหาบริเวณ 1,600-1,610+- จุด เรามองเป็นจังหวะในการทยอยสะสมหุ้นเพิ่ม

กลยุทธ์ : ลงทุนใน Domestic และ Selective Play // รอสะสมหุ้นช่วงปรับฐาน 1,600-1,610+- จุด

หุ้นเด่นเดือนก.ย. : CPN, KTB, M, PRM, TU

หุ้นเด่นวันนี้ : ICHI

• แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 11 บาท

• แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 3Q22-4Q22 คาดฟื้นตัวดีแม้เป็น Low Season ได้แรงหนุนจากแผนออกสินค้าใหม่ 5-6 รายการใน 3 เดือนข้างหน้า ช่วยหนุน Utilization Rate เป็นบวกต่อทั้งรายได้และ Margin

• ปัจจุบันยังคงเป้ารายได้ปีนี้ 6.5 พันลบ. +24% Y-Y สะท้อนว่าครึ่งปีหลังจะเติบโตแข็งแรง เราคาดกำไร 3Q22 มีโอกาสทำจุดสูงสุดของปีก่อนอ่อนลงใน 4Q22 คาดกำไรปี 2022 จะทรงตัว Y-Y ก่อนเร่งตัว +15% Y-Y ในปี 2023

• แนวรับ 9.10-9 บาท แนวต้าน 9.70-9.80 บาท

**บล.ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  คาดดัชนีฯ แกว่งกรอบแคบก่อนเข้าสู่วันหยุด ตลาดต่างประเทศยังกังวล Recession ขณะที่ตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากหุ้นรายตัว

ภาพรวมของตลาดตอนนี้ ดูเหมือนว่าตลาดจะกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในเชิงรุกน้อยลง แต่เรามองว่าสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ อาจจะต้องดูตลาดวันนี้อีกวัน อีกทั้งความกังวล Recession ของสหรัฐฯ ยังน่ากังวล

Bond Yield 2 ปี 10 ปี สหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งนักลงทุนจะใช้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ ในการตัดสินใจทางนโยบายการเงินของ Fed ครั้งต่อไป หากยังอยู่ในระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ จะเพิ่มความกังวลให้กับตลาด

ยูเครนไม่มีอะไรที่มีนัยยะ ถึงแม้รัสเซียจะมีการเพิ่มกำลังทหารในวันนี้ผ่านมา แต่สถานการณ์ดูไม่ได้มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น

เงินบาทของไทยยังอ่อนค่า ล่าสุด 37.3 บาท/ดอลลาร์ เรายังให้ความสนใจกับหุ้นอาหารที่จะได้อานิสงค์จากการอ่อนค่าของเงินบาท (ASIAN) ขณะที่ Flow นักลงทุนต่างชาติยังเทขายหุ้นไทย วานนี้ Net Sell สะสมเดือนนี้ 1.4 หมื่นล้านบาท

วันนี้ พล.อ ประวิตร นั่งหัวโต๊ะในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ครั้งแรก อาจจะต้องติดตามว่าจะมีการสั่งยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินหรือไม่

หุ้นขึ้น XD ได้แก่ ENGY(@0.0775) และ MBAX_W2 เริ่มทำการซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก

Strategy

• ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ ยังไม่ตกใจต่อทิศทางดอกเบี้ย แต่ดอลล่าร์ที่แข็งค่า (Dollar Index 111 จุด)  และ Bond Yield ของสหรัฐฯ ยังสูง จะมีความเสี่ยงที่นักลงทุนต่างประเทศจะขายหุ้น ภาพรวมๆ  จึงยังต้องเน้นเล่นสั้นในหุ้นมีข่าว ไปก่อน

• เราให้น้ำหนัก หุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขึ้น จะเป็นกลุ่มธนาคารบางตัว (BBL, KBANK)  ส่วนการอ่อนค่าของเงินบาท หุ้นที่เป็นบวก ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มเกษตรและอาหาร เราชอบ ASIAN, TVO

• หุ้นที่ราคาลงมาลึกๆ และมีโอกาส rebound จาการที่นักลงทุนเลี่ยงความเสี่ยง วันนี้ เราชอบ BCH, TQM, SABUY

• หุ้นในพอร์ตวันนี้เรานำ KTB  ออกจากพอร์ต และนำหุ้น TFG*, BBL เข้ามาในพอร์ต หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย BBL(10%), TFG*(10%),  BANPU(10%), ASIAN(10%), WHA(10%), CENTEL(10%), NEX(10%), CKP(10%)

Strategy Stock Pick

BBL: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 140.00 บาท) “เสริมหุ้น ธ. ใหญ่รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น”

• วางหุ้นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น คาดไทยต้องเริ่มปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อรักษา Policy Spread ด้าน BBL ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้มากเพราะมีสัดส่วนสินเชื่อ Corporate กว่า 42%

• ราคาหุ้น BBL ค่อนข้าง Laggard ปัจจุบันเทรดบน PBV เพียง 0.53X ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง NPL ยังต่ำ ความพร้อมในการรับมือต่อภาวะเศรษฐกิจสูงกว่ากลุ่ม

• DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2022-2023  ที่2.89 หมื่น ลบ. และ 3.23 หมื่น ลบ. 9.4%YoY , +11.7%YoY ตามลำดับ

Technical : FSMART, LEO

**บล.คิงส์ฟอร์ด จำกัด ประเมิน ดัชนี SET ได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศและภาคท่องเที่ยวฟื้นตัว วางแนวรับดัชนีที่ 1,635 – 1,640 แนวต้าน 1,655 แนะนำซื้อเมื่อดัชนี่อ่อนตัว KBANK,BBL,BLA (+ดอกเบี้ยขาขึ้น)/ AOT,AAV,BA,CENTEL,ERW (+ยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน)/ เก็งกำไร RS,KAMART,7UP

TOA* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 34.50 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2H65 ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกจากการทยอยปรับเพิ่มราคาขาย ขณะที่ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันและไททาเนียมไดออกไซด์เริ่มปรับตัวลดลง ส่งผลบวกต่อ GPM ขยับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ผู้บริหารปรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 65 เป็น 14-16% จากเดิมคาดโต 10% หนุนจากการแตกไลน์ขายผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สี เช่น เคมีก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างมากขึ้น โดยมีช่องทางการขายผ่านเครือข่าย และ Shop Mega Paint นอกจากนี้ TOA ยังครองความแข็งแกร่งทั้งในแง่ผู้นำตลาดสี ฐานะทางการเงินดีมีเงินสดสูง ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 65 Flat แต่จะโตในปี 66 ราว +19%

COM7 (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 39.13 บาท) หลังการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ซึ่งเริ่มจำหน่ายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเร็วขึ้นโดยขยับมาสู่เดือน ก.ย. ทำให้คาดงวด 3Q65 มีโอกาสทยอยรับรู้ที่ดีขึ้นจากลูกค้าที่มีกำลังซื้อฟื้นตัวตามภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และยอดขายทำได้ดีโดยบริษัทคาดเป้าปีนี้ +20%YoYสู่ 5.1-6หมื่นลบ. (โทรศัพท์มือถือราว 50%) โดยมองเป้า 3-4 ปีข้างหน้า Mkt Share 20% จากหน้าร้านปัจจุบัน 1090 สาขา ขณะที่บริษัทยังมีเป้าหมายขยายไปยังธุรกิจอื่น เช่นเช่าเครื่องโทรศัพท์, ศูนย์ซ่อมและบริการสินค้า iCare, ร้าน True by Com7, ขยายช่องทางออนไลน์, ขยายสาขาแบบ Stan Alone ที่มีต้นทุนค่าเช่าต่ำกว่าในห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1