26 กันยายน 2022 เวลา 06:20 น.
#ทันหุ้น - การเดินหน้าเปิดประเทศของญี่ปุ่น/ฮ่องกง/ไต้หวัน รวมถึงไทย ศบค.ผ่อนคลายและเตรียมออกมาตรการดึงดูดต่างชาติ หนุนหุ้นเปิดเมือง/สัปดาห์หน้าประชุม กนง. คาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยบวกกลุ่มธนาคาร/SET สัปดาห์นี้คาด 1,616 -1,666 จุด หุ้นแนะนำ SCB, ERW
กลยุทธการลงทุน : ประเด็นเรื่อง Fed เชื่อว่าหลังจบการประชุม Fed ตลาดคง Wait&See รอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐต่างๆ โดยเฉพาะรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ที่จะประกาศวันที่ 13 ต.ค. จะชะลอลงมากน้อย? เงินเฟ้อสหรัฐ เดือนล่าสุด อยู่ที่ 8.3%YoY KS คาดว่าเงินเฟ้อได้ผ่าน Peak ไปแล้ว แต่คาดจะไม่ปรับลงแรง โดยยังถูกหนุนจากฝั่งภาคอสังหา ระยะสั้นคาดประเด็นที่ตลาดหุ้นให้น้ำหนักคือ เรื่อง Recession ในฝั่งยุโรป สหรัฐ และความเสี่ยง Geopolitics Risk รัสเซีย- ยูเครน ทำให้ตลาดหุ้นโลกคาดจะแกว่งตัว Sideway อย่างไรก็ตามในฝั่งตลาดหุ้นไทย KS ยังคงมุมมองเดิมไม่เปลี่ยน คือ คาดตลาดหุ้นไทยจะยัง Outperform เมื่อเทียบกับในฝั่งสหรัฐ และยุโรป เนื่องจากไทยมีจุดเด่นทั้ง 1.โอกาสการเกิด Recession ต่ำกว่า 2. ยังเห็น Trend การ Upgrade ทั้ง GDP และ EPS ฯลฯ
ธีมการลงทุนที่มีปัจจัยบวก 1. การเปิดประเทศของญี่ปุ่น/ฮ่องกง/ไต้หวัน และไทย คาดจะมี Sentiment บวก AOT, AAV, BA, AWC, ERW, EKH 2. ประชุม กนง. สัปดาห์หน้า 28 ก.ย. คาดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในการประชุมที่เหลือของปีนี้ คาดดอกเบี้ยนโยบายปลายปีที่ 1.25% (เดิมคาด 1% หรือขึ้นเพียง 25bps) จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามากเริ่มกระทบเงินเฟ้อ บวกกับปัจจัยภายในประเทศที่ดีขึ้น มองเป็นบวกกับธนาคารขนาดใหญ่ อาทิ SCB, BBL 3. Carbon Credit หุ้นที่ราคายัง Laggard อาทิ KAMART, STA, SSP, BCPG, GUNKUL 4. ธีมรับเลือกตั้ง อาทิ AWC
SCB (ราคาทางพื้นฐาน 152.0 บาท) 1.การประชุม กนง. วันที่ 28 ก.ย. ตลาดคาดมีโอกาสจะเห็นขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 25bps อยู่ที่ 1%คาดจะเห็นการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ตามมา ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์คาดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทุก 25bps จะเป็น Upsides ต่อกำไรปี 2023 ของธนาคาร SCB +7% 2. โดยจากสถิติก่อนการประชุม กนง. ในรอบที่คาดจะขึ้นดอกเบี้ย อาทิ รอบล่าสุด 10 ส.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารคาดจะ Out Perform ก่อนการประชุม กนง. 1 สัปดาห์ปรับขึ้นเฉลี่ย 1.7% และหลังการประชุม 1 สัปดาห์ปรับขึ้นเฉลี่ย 2%
ERW (ราคาทางพื้นฐาน 4.56 บาท) 1. คาดจะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศดังกล่าว 2. เราคาดว่า ERW จะพลิกกลับมาทำกำไรได้ในไตรมาส 4/2565 จากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของ RevPar หลังจากการยกเลิกระบบ Thailand Pass ในเดือนก.ค. 3. ERW ซื้อขายที่ PER ปี 2567 ราว 28 เท่า ในขณะที่หุ้นโรงแรมส่วนใหญ่ซื้อขายด้วย PER ที่สูงขึ้นในปี 2567 เมื่อเทียบกับปี 2562 ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าอัตรากำไรปกติปี 2567 จะอยู่ที่ 9.3% เพิ่มขึ้นจาก 7.3% ใน ปี 2562 จากสัดส่วนรายได้ที่สูงขึ้นจาก HOP INN ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มโรงแรมอื่นๆ เราคาดว่ารายได้จาก HOP INN จะเพิ่มขึ้นจาก 12% ในปี 2562 เป็น 21% ในปี 2567
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม