> SET > JWD

27 กันยายน 2022 เวลา 12:53 น.

JWD มั่นใจครึ่งปีหลังโตตามแผน รายได้แตะ 1 หมื่นลบ.ในปี 68

#ทันหุ้น - JWD มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง หลังภาพรวมธุรกิจต้นไตรมาส 3 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ส่งซิกธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ฟื้นตัวชัดเจนหลังได้รับงานจากผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจท่าเทียบเรือชายฝั่งขนส่งสินค้ามีปริมาณงานเพิ่มขึ้นพร้อมโชว์ความคืบหน้าขยายธุรกิจภายใต้แผนยุทธศาสตร์ทำรายได้แตะ 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2568 เป็นไปตามแผน และตอกย้ำแนวคิดการดำเนินธุรกิจภายใต้ DNA “Think Everything Logistics”


นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD เปิดเผยว่า มีความมั่นใจว่าบริษัทฯ จะทำผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปีนี้เติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องโดยภาพรวมการดำเนินงานเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาถึงปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์อย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 เนื่องจากได้รับงานให้บริการโลจิสติกส์แก่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ส่งผลดีต่อรายได้และกำไรขั้นต้นของธุรกิจดังกล่าวส่วนธุรกิจบริหารท่าเทียบเรือชายฝั่งขนส่งสินค้า (Barge Terminal) สามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างเต็มที่และมีปริมาณงานเฉลี่ยต่อเดือนสูงกว่าครึ่งปีแรก หลังจากปรับปรุงซ่อมแซมเครื่องจักรแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ส่วนธุรกิจคลังสินค้า ได้แก่ คลังสินค้าทั่วไปภายในพื้นที่เขตปลอดอาการท่าเรือแหลมฉบัง ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่เต็มและคลังสินค้าอันตรายคาดว่าจะมีรายได้สูงกว่าครึ่งปีแรกของปีนี้


ขณะเดียวกันได้ บริษัทฯ ยังรับรู้รายได้จากคลังสินค้าห้องเย็นแห่งใหม่ที่ทยอยเปิดบริการ ได้แก่ คลังสินค้าห้องเย็น PACM ที่ร่วมทุนกับบริษัท เอ็ม เอ็ม พี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด พื้นที่รวม 10,800 ตารางเมตร จัดเก็บสินค้าได้ 20,000 พาเล็ต ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่เต็มหลังจากเปิดบริการเพียง 3-4 เดือนและคลังสินค้าห้องเย็น PACS จังหวัดสระบุรีที่เปิดบริการเมื่อวันที่ 8 เดือน 8 ที่ผ่านมามีพื้นที่รวม 8,000 ตารางเมตร จัดเก็บสินค้าได้กว่า 11,000 พาเล็ต โดยติดตั้งระบบ Automated Storage & Retrieval System (ASRS)ในการจัดเก็บและบริหารสินค้าช่วยลดการเพิ่มแรงงานส่วนธุรกิจห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า (Self-Storage) อยู่ระหว่างวางแผนขยายการลงทุนร่วมกับ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ และ Fuze Post (ฟิ้วซ์ โพสต์) ธุรกิจให้บริการขนส่งด่วนแบบควบคุมอุณหภูมิที่บริษัทฯ ร่วมทุนกับไปรษณีย์ไทยและแฟลช เอ็กซ์เพรส คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ธุรกิจในต่างประเทศ เช่น ธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสในประเทศไต้หวันสามารถทำกำไรในปีนี้อย่างต่อเนื่อง, ธุรกิจในกัมพูชาคาดว่าจะรับรู้รายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น เป็นต้น


ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาธุรกิจ คาดว่ามีโอกาสจะปิดดีลได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ พร้อมกันนี้ได้วางแผนรับมือผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยจะลงทุนรถขนส่งที่ใช้เชื้อเพลิงจากพลังงานไฟฟ้าเฟสแรก10 คัน อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีเงื่อนไขปรับขึ้นค่าขนส่งกับคู่ค้าในกรณีที่ราคาน้ำมันในตลาดสูงขึ้นส่วนนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯ จ่ายค่าจ้างสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอัตราใหม่ จึงมั่นใจว่าจะทำรายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 15% จากปีก่อนได้ตามเป้าหมาย


สำหรับ แผนขยายธุรกิจภายใต้แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (ปี 2564-2568) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท เติบโตกว่าเท่าตัวและเพิ่มอัตรากำไรสุทธิเป็น 15% ปัจจุบันมีความคืบหน้าตามแผนงานที่วางไว้ภายใต้ 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 


(1) การเข้าซื้อกิจการและขยายธุรกิจขนส่งสินค้า เพื่อก้าวเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบ Multimodal Transportation หรือ การขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบเช่น การเข้าซื้อกิจการบริษัท วีเอ็นเอส ทรานสปอร์ตจำกัด (VNS) ในปีที่ผ่านมา


(2) การขยายธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในจังหวัดที่มีศักยภาพ (3) การขยายธุรกิจต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นประเทศเวียดนาม กัมพูชาและอินโดนีเซีย ที่มีศักยภาพเติบโตสูง 


(4) การขยายธุรกิจแบบ B2C(Business to Customer) ได้แก่ ธุรกิจห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า, ธุรกิจ Order Fulfillment (การจัดการคลังสินค้าออนไลน์) เพื่อตอบสนองการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซ และการขยายธุรกิจ Last mile Delivery เพื่อให้บริการจัดส่งสินค้าจากคลังสินค้าไปถึงผู้รับปลายทาง และ (5) การขยายธุรกิจผ่านการร่วมทุนได้แก่ การร่วมทุนกับ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น” เพื่อขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมแบบครบวงจร ปัจจุบันได้ร่วมกันพัฒนาคลังสินค้าห้องเย็นและคลังสินค้าทั่วไปที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิในย่านบางนา กม.22 และวางแผนขยายการลงทุนโครงการใหม่อีก 2 แห่งในย่านบางนา กม.19 และรังสิต


ทั้งนี้ มองว่าในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า ธุรกิจโลจิสติกส์และซัพพลายเชนจะแข่งขันกันที่ความหลากหลายของการให้บริการและความสามารถในการควบคุมต้นทุน ดังนั้นบริษัทฯ จะขยายธุรกิจและการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับ JWD เป็น “Smart Green Logistics” เช่น การลงทุนระบบโรโบติกส์ในธุรกิจคลังสินค้าและคลังสินค้าห้องเย็นเพื่อลดการเพิ่มแรงงานใหม่,การลงทุนด้านไอทีโซลูชั่นเพื่อจัดการข้อมูลระบบซัพพลายเชน, การลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น


“จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ตอกย้ำถึงศักยภาพการปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับปัจจัยต่างๆ และการพัฒนาธุรกิจอยู่ตลอดเวลาและบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็นเทรนด์การเติบโต กล้าที่จะทำสิ่งใหม่ๆสอดคล้องกับ DNA ของบริษัทฯ ‘Think Everything Logistics’ ที่สื่อความหมายว่าทุกลมหายใจของพนักงานคือโลจิสติกส์ภายใต้สโลแกนใหม่‘เพราะโลจิสติกส์ไม่ใช่แค่คิด แต่มันคือชีวิตของเรา” นายชวนินทร์ กล่าว



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X