> SET > WFX

21 ตุลาคม 2022 เวลา 08:30 น.

WFXหน้าหนาวยอดสูง รับเต็มเงินบาทอ่อนค่า

#WFX #ทันหุ้น – WFX เข้าไฮซีซันธุรกิจไตรมาส 4 อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม กลับมาโตแรงทั่วโลก รับช่วงหน้าหนาว ผลงานไตรมาส 4/2565 สดใส รับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าแรง เหตุส่งออกกว่า 99%  ปีหน้าขยายตลาดแอฟริกาเพิ่ม ปี 2566 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% เผยกำลังการผลิตเฟส 2 จะพิจารณาลงทุนตามเหมาะสม


นายณัฐ วงศาสุทธิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ WFX ผู้ผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบแป้งและเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบซิลิโคน ซึ่งเป็นส่วนประกอบในการผลิตสินค้าสำเร็จรูปทั้ง เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ถุงเท้า ชุดชั้นใน อุปกรณ์ทางการแพทย์ เฟอร์นิเจอร์ เปิดเผยว่า บริษัทกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน ไตรมาส 4/2565 ซึ่งเป็นช่วงที่มีความต้องการยางยืดสำหรับสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม มาก รวมทั้งอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่กลับมาฟื้นตัวและเติบโต


ปัจจุบันเส้นด้ายยางยืดขนาดเล็กสำหรับถุงเท้ามียอดขายที่ดีมาก ทำให้เชื่อว่าผลประกอบการจะกลับมาเติบโตได้ดี แม้ว่าไตรมาส 3/2565 จะได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจ สงคราม รวมไปถึงเงินเฟ้อด้วย


“ไตรมาส 4 นับเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจที่จะเห็นการเติบโตต่อเนื่อง เพราะอุตสาหกรรมสิ่งทอ มีความต้องการเพิ่มขึ้น และเป็นช่วงหน้าหนาวที่จะทำให้ความต้องการเสื้อผ้าสำหรับกันหนาวสูงขึ้นด้วย อย่างช่วงนี้ กลุ่มเส้นด้ายยางยืดขนาดเล็กสำหรับถุงเท้าก็ค่อนข้างมียอดขายที่ดีด้วย ดังนั้นปีนี้ไตรมาส 4/2565 น่าจะเห็นผลประกอบการที่ดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าไตรมาส 3/2565 อาจจะได้รับผลกระทบจากเศรฐกิจไปบ้าง แต่เชื่อว่าปีหน้าจะกลับมาเติบโตต่อเนื่อง”นายณัฐ กล่าว


@ เร่งขยายตลาด


นอกจากนี้ยังวางกลยุทธ์การบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น ล่าสุดได้เจรจาขยายไปยังตลาดยุโรปมากขึ้น ซึ่งออเดอร์ส่วนใหญ่จะส่งมอบปลายปี 2565 ถึงต้นปี 2566 รวมถึงตลาดบังกลาเทศ ตลาดอินโดนีเซีย และตลาดเวียดนาม ก็มีโอกาสเติบโต ตลอดจนตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริษัทได้ขยายตลาดเข้าไปยังกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น


ขณะเดียวกันในปี 2566 จะมีการขยายตลาดแอฟริกาด้วย ทั้งนี้บริษัทมีสัดส่วนการส่งออกกว่า 99% ทำให้ได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าอย่างมาก ปัจจุบันที่อ่อนค่ามาถึงระดับ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ


นายณัฐ กล่าวด้วยว่า แนวโน้มมาร์จิ้นของบริษัทจะดีขึ้น จากการที่บริษัทเลือกใช้ช่องทางการทำตลาดเข้าสู่ End Users โดยตรง ตลอดจนการที่กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนลดลง (Economy of Scale) รองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในแต่ละ Segment


@รายได้ปีหน้าโต10-15%


สำหรับปี 2566 บริษัทจะมีรายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10-15% จากการเปิดตลาดใหม่ๆ และยอดขายที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการความต้องการเส้นด้ายยางยืดจะฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนการขยายกำลังการผลิตเฟสแรก ได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้วส่วนเฟส 2 อาจจะพิจารณาการลงทุนให้เหมาะสมกับภาพรวม ซึ่งอาจจะเลื่อนจากเดิม ที่คาดว่ากำลังการผลิตเฟส 2 จะเร่งให้แล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2565


“ทั้งนี้ทั้งเฟส 1 และเฟส 2 อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ทำให้ง่ายต่อการขยายกำลังการผลิตเพียงการสั่งซื้อเครื่องจักรเพิ่ม หากปีหน้าภาพรวมทุกอย่างกลับมาดี ก็จะเดินหน้าขยายเฟส 2 ทันที”


ส่วนราคาน้ำยางข้นเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเส้นด้ายยางยืด ขณะนี้ยังสามารถบริหารจัดการได้ แต่ต้องยอมรับว่าราคาน้ำยางมีทิศทางสูงขึ้น เพราะภาคใต้ประสบปัญหาเรื่องฝน ทำให้ซัพพลายออกมาลดลง และส่งผลให้ราคาน้ำยางปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงต้องมีการบริหารจัดการต้นทุนด้านอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย และยังมีการเจรจากับลูกค้าในเรื่องของราคา รวมถึงการการวางแผนการจัดซื้อน้ำยางข้นล่วงหน้าที่สอดคล้องกับแผนการผลิตของบริษัท เพื่อให้มีปริมาณน้ำยางข้นเพียงพอต่อการใช้ในการผลิตเส้นด้ายยางยืดในราคาที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท


โดยบริษัทได้มีการติดตามสถานการณ์ราคาน้ำยางข้นและราคาน้ำยางพาราธรรมชาติทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด  เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร


รู้ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

TWITTER คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X