> SET > SCC

29 ตุลาคม 2022 เวลา 15:00 น.

SCC ผ่านจุดเลวร้ายสุดแล้วหรือยัง?

#SCC #ทันหุ้น - 3 โบรกฯ ส่องหุ้น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC มอง Q3/65 ผลประกอบการเป็นจุดต่ำสุดของธุรกิจ ประเมินราคาเป้าหมาย 305-380 บาท

บล.เอเซีย พลัส ส่อง SCC งวด Q3/65 กำไรสุทธิ 2,444 ล้านบาท ลดลง 64%YoY ผลประกอบการทรุดหนักเกิดจากธุรกิจปิโตรเคมีที่พลิกเป็นขาดทุน หลัง Spread ผลิตภัณฑ์หลักลดลง ซ้ำเติมด้วย Stock Loss ที่เกิดขึ้นจำนวนมาก ขณะที่ธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างได้รับผลกระทบจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ทำให้มีกำไรอยู่ในระดับต่ำมาก เช่นเดียวกับธุรกิจ Packaging ที่ได้รับแรงกดดันจากต้นทุนพลังงานและภาวะการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น ซึ่งเกิดจากอุปสงค์ในจีนที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ


ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าจุดต่ำสุดของผลประกอบการได้ผ่านพ้นไปแล้วใน Q3/65 แนวโน้มผลประกอบการ Q4/65 เริ่มฟื้นตัว เนื่องจากธุรกิจปิโตรเคมีไม่น่าจะมี Stock Loss มากเหมือนงวด Q3/65 ส่วนธุรกิจ Packaging จะได้รับอานิสงค์จากต้นทุนเศษกระดาษที่ลดลง และธุรกิจลงทุนจะมีรายได้จากเงินปันผลเข้ามาในทุกไตรมาสสี่ของปี แนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาเหมาะสมปี 2566 ด้วยวิธี DCF ได้ที่ 380 บาท

ด้าน บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่าการที่ SCC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ที่ 2.4 พันล้านบาท ลดลง 64% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 75% จากไตรมาสก่อน ซึ่งกำไรดังกล่าวต่ำกว่าที่ตลาด และฝ่ายวิจัยดาโอฯ คาดไว้ 19% และ 40% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริการที่สูงกว่าคาด และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมต่ำกว่าคาด และคาดว่า petrochemical price spread น่าจะฟื้นตัวช้าๆ ในไตรมาส 4/65 จากแรงกดดันจากการที่จีนยังคงนโยบาย Zero Covid อยู่


อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัย ยังคงมุมมองว่ากำไรในปี 2566 ของ SCC จะเห็นการฟื้นตัว โดยมีแรงหนุนจากปริมาณขายส่วนเพิ่มจากโครงการ LSP ซึ่งการก่อสร้างยังเป็นไปตามแผน โดยก่อสร้างไปแล้ว 96% และตั้งเป้าทุกหน่วยสามารถเริ่มผลิตภายในไตรมาส 2/66


ส่วนประเด็นการที่บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด  หรือ SCGL บริษัทย่อยของ SCC จะมีการรวมกิจการกับะบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน)  หรือ JWD โดยการแลกหุ้น ภายหลังการดำเนินการเสร็จจะเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เอสซีจีเจดับเบิ้ลยูดีโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGJWD ในเบื้องต้นเชื่อว่าแผนการควบรวมกิจการนี้จะไม่กระทบต่อประมาณการกำไรอย่างมีนัยสำคัญ ฝ่ายวิจัยดาโอฯ ยังคงประมาณการกำไรปี 2565 ของ SCC ที่ 3.24 หมื่นล้านบาท ลดลง 31% เนื่องจาก petrochemical price spread ที่ลดลง และต้นทุนค่าขนส่งและต้นทุนเศษกระดาษที่ทรงตัวสูง


ทั้งนี้ คาดว่ากำไรในปี 2566 จะฟื้นตัวอยู่ที่ 4.04 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% มีปัจจัยผลักดันจากปริมาณขายปิโตรเคมีที่สูงขึ้นจากการเริ่มโครงการ LSP Petrochemical Complex และโครงการ Petrochemical price spread ที่ฟื้นตัว รวมถึงมีมูลค่ายอดขายที่สูงขึ้นของธุรกิจ CBM และปริมาณยอดขายที่สูงขึ้นของ SCGP


กลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 370 บาทต่อหุ้น โดยเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว และคงมุมมองว่ากำไรจะกลับมาฟื้นตัวได้ในปี 2566 จากำไรของธุรกิจปิโตรเคมีที่ดีขึ้น และรับรู้กำลังการผลิตส่วนเพิ่มจากโครงการ LSP Petrochemical Complex

ฟาก บล.ทรีนีตี้ มองว่า SCC ที่ประกาศกำไรไตรมาส 3/65 ต่ำกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ มาจากทั้งธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจซีเมนต์และก่อสร้างได้รับผลกระทบจากความต้องการที่ชะลอตัว โดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมีที่ไตรมาสนี้ขาดทุน ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/65 อาจจะฟื้นตัวได้เล็กน้อย เพราะธุรกิจซีเมนต์และก่อสร้างน่าจะกลับมาดี แต่ธุรกิจปิโตรเคมีอาจจะยังไม่ฟื้น ยังคงอยู่ในช่วงที่เป็น Down cycle


กลยุทธ์การลงทุนแนะนำถือ ให้ราคาเป้าหมายของปี 2566 ที่ 305 บาทต่อหุ้น โดยยังคงมุมมองเชิงระมัดระวังต่อผลประกอบการ เพราะทั้งธุรกิจปูนซีเมนต์อิงการเติบโตในประเทศเป็นหลัก และธุรกิจปิโตรเคมีอิงการเติบโตตามเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีความเสี่ยงในสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X