นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีธุรกิจทั้งหมด 6 กลุ่ม และกำลังจะเพิ่มอีก 1 กลุ่ม เป็นให้เป็น 7 กลุ่มในเร็วๆนี้ สำหรับธุรกิจกลุ่มแรกคือแพลนเน็ตซิสเต็ม หรือธุรกิจ SI บริษัทขายสินค้าให้ B2B และ B2G กลุ่มลูกค้าคือหน่วยงาน กรมกอง ที่ใช้สินค้าสื่อสาร VDO CONFERENCE สัดส่วนรายได้กลุ่มแรกถือเป็นรายได้หลัก และมีสัดส่วนมากกว่า 50%
ธุรกิจที่ 2 คือไฟเบอร์ หรือบริการไฟเบอร์ตามตึก อาคาร คอนโด ธุรกิจที่ 3 คือคลาวด์ (CLOUD) ธุรกิจนี้ก่อนเกิดโควิด บริษัทพยายามโปรโมต แต่คนทั่วไปยังไม่รู้จัก แต่เมื่อโควิดมา ทุกคนยอมรับและรู้จักมากขึ้น สำหรับธุรกิจคลาวด์ สามารถพัฒนาต่อไปในธุรกิจดิจิทัล ดาต้า เซ็นเตอร์ ไอทีแพลตฟอร์ม ซึ่งบริษัทนำไปใช้ในสมาร์ทซิตี้ โดยบริษัทได้งานแล้วที่โครงการภายใต้พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยงานที่ได้รับคือการติดตั้งระบบสมาร์ทซิตี้ที่อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
ธุรกิจที่ 4 คือแพลนเน็ตยูทีลิตี้ ธุรกิจน้ำ ไฟ และโซลาร์ คาดว่าปีหน้า (ปี 2566) จะมีข่าวดี จากลูกค้าและน่าจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) โซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์รูฟ ขณะเดียวกันหากในปีหน้าสามารถทำดิจิทัลออเตอร์ได้ บริษัทจะขยายไปหน่วยงานทั่วประเทศ
ธุรกิจที่ 5 คือ EV ปัจจุบันอยู่ในกระแส ล่าสุดบริษัทเปิดตัวสถานีบริการชาร์จ EV คู่กับ Café Amazon ซึ่งจะเป็นต้นแบบไลฟ์สไตล์ทั้งชาร์จ EV และดื่มกาแฟไปด้วย บริษัทวางแผนจะขยายเป็น EV HUB10-50 หัวชาร์จ และธุรกิจสุดท้ายหรือธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ บริษัท เป็นพาร์ตเนอร์กับหัวเว่ย ขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับดาต้าเซ็นเตอร์ ส่วนในอนาคตหรือธุรกิจที่เจ็ดบริษัทจะเป็นเจ้าของธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์เอง
สำหรับปี 2566 คาดธุรกิจ EV จะเป็นขาธุรกิจหลัก โดยบริษัทมีแผนจะเป็นตัวแทนขายรถทำอีไบค์หรือมอเตอร์ไซค์ EV รวมถึงรถแวน EV หรือรถตู้ EV ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาสินค้า การเปลี่ยนแบตเตอรี และแอปพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการให้บริการเกี่ยวกับ EV ครบวงจร
นอกจากนี้บริษัทจะกระจายสถานีบริการไปตามหัวเมืองหลัก เริ่มต้นเตรียมเปิดบริการที่ภูเก็ต และพัทยา หลังจากบริษัทเป็นตัวแทนขายแล้ว ในอนาคตบริษัทเตรียมจะเป็นผู้ผลิตเพื่อให้ได้สิทธิ์ยกเว้นภาษีอีกด้วย บริษัทเห็นการเติบโตในปี 2566 ตลาดของธุรกิจ EV จะเติบโตอย่างมาก และคาดจะสนับสนุนรายได้ปี 2566 ของ PLANET เติบโตเท่าตัว หรือก้าวกระโดด
จาก 2-3 ปีธุรกิจเดิมไม่ดี เพราะหลายองค์กรเอาเงินไปช่วยเหลือผู้บริโภค หรือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด
ขณะที่หลังจากนี้โควิดในประเทศคลี่คลาย คาดการลงทุนโปรเจ็กต์จะกลับมา ส่วนธุรกิจใหม่มีโอกาสการเติบโตสูง หรือมีแนวโน้มก้าวกระโดด จากธุรกิจ EV ดาต้าเซ็นเตอร์ ธุรกิจดังกล่าวจะสนับสนุนการเติบโตของ PLANET อนึ่ง 6 เดือนแรกปี 2565 บริษัทมีรายแล้วที่ 306.79 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 15.33 ล้านบาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
TWITTER คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม