> SET > BCP

23 พฤศจิกายน 2022 เวลา 10:45 น.

“BCP” หุ้นมีสตอรี่ ราคามีอัพไซต์

#ทันหุ้น - บล.กสิกร ส่อง BCP คงคำแนะนำ “ซื้อ” TP ที่ 35.40 บาท จากผลผลิตน้ำมันกลุ่มดีเซลที่ค่อนข้างสูง ราคาหุ้นที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และ upside จากการควบรวมกิจการ ทั้งนี้ BCP ตั้งเป้าการเติบโตของ EBITDA ระยะยาวที่ 10 เท่าในปี 2573 จากการขยายธุรกิจ E&P ธุรกิจโรงกลั่น และธุรกิจไฟฟ้าโดยมี CAPEX รวมที่ 2 แสนลบ. คาด BCP จะได้ประโยชน์จากส่วนต่างราคาดีเซลที่คาดว่าจะสูงในปี 66 จากโรงกลั่นที่ใช้เทคโนโลยี hydrocracking แต่โรงกลั่นที่มีหน่วย FCC คาดว่าจะดำเนินงานได้ลดลง


BCP ตั้งเป้าหมายระยะยาวในการเพิ่ม EBITDA ให้ได้ 10 เท่า ภายในปี 2573 จากค่าเฉลี่ยที่ 1 หมื่นลบ. ในปี 2558-63 โดยการขยายตัวของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) ธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจไฟฟ้าจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ ทั้งนี้ผู้บริหารระบุว่าแถบทะเลเหนือจะเป็นพื้นที่หลักในการขยายธุรกิจ E&P เนื่องจากมีโอกาสในการควบรวมกิจการ (M&A) ที่สูงอันเป็นผลจากอายุแหล่งที่ค่อนข้างมาก


ในขณะที่ BCP เตรียมเพิ่มกำาลังการผลิตต้นน้ำเป็น 100 KBOED เพื่อให้สอดคล้องกับขนาดโรงกลั่นของบริษัทฯ โดยในส่วนการขยายธุรกิจโรงกลั่นจะอยู่ในรูปแบบของการเพิ่มผลิตภัณฑ์พิเศษใหม่ ๆ ที่เน้นกลุ่มลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจง เช่น UCO และ SAF มากกว่าการขยายกำลังการผลิต ซึ่งเป็นการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่าน พลังงานในอนาคต โดยภายในปี 2573 BCP คาดว่าธุรกิจ E&P จะมส่วนแบ่งประมาณครึ่ง หนึ่งของ EBITDA ขณะที่ธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจไฟฟ้าจะมส่วนแบ่ง 18% และ 10% ตามลำดับ


นอกจากนี้ BCP ได้ตั้งงบลงทุน (CAPEX) ประมาณ 2 แสนลบ. สำหรับ 8 ปีข้างหน้าหรือเฉลี่ย 2.7 หมื่น ลบ./ปี อย่างไรก็ตาม การลงทุนในธุรกิจ E&P จะมสัดส่วนที่ 35% ของแผน CAPX ทั้งหมด ขณะที่ธุรกิจโรงกลั่นจะมีส่วนแบ่ง CAPEX เพียง 10% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในหน่วยการผลิตน้ำมัน SAF ในปี 2566 ที่ 6.0 พันลบ. สำหรับธุรกิจไฟฟ้าจะใช้เงินประมาณ 37% ของ CAPEX ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะเป็นเงินลงทุนสำหรับข้อตกลง M&A ประมาณ 3.0 หมื่นลบ. ในช่วงต้นปีหน้า


สำหรับการเพิ่มระดับหนี้สินของบริษัทลูก เพื่อเป็นการจัดหาเงินทุนตามแผน CAPEX ขนาดใหญ่ ดังกล่าว BCP มีแผนที่จะเพิ่มการกู้ยืมที่บริษัทลูก ซึ่งประกอบด้วย BCPG OKEAS และ BBGI ซึ่งสถานะทางการเงินของบริษัทลูกเหล่านี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยมีสถานะเกือบเป็นบริษัทที่ มีเงินสดสุทธิ ทั้งนี้ผู้บริหารเชื่อว่า BCPG และ OKEAS จะสามารถจัดหาเงินได้ราว 8.0 หมื่น ลบ. และ 4.0 หมื่นลบ. ตามลำดับ ซึ่ง เพียงพอที่จะนำใช้ในการลงทุนโครงการต่าง ๆ ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (net D/E) ของบริษัทแม่ (BCP) อยู่ที่เพียง 0.6 เท่าซึ่งถือว่าแข็งแกร่งเพียงพอที่จะจัดหาเงินสำหรับแผน CAPEX ในส่วนที่เหลือ (5.2 หมื่นลบ.)


แนวโน้มโรงกลั่นที่เน้นผลิตน้ำมันดีเซลแข็งแกร่ง BCP คาดว่าน้ำมันดีเซลจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักในการขับเคลื่อนผลการดำเนินงานของโรงกลั่นในปี2566 โดยคาดว่าส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลจะอยู่ที่ 23.3 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของฝ่ายวิจัย ทั้งนี้ การผ่อนคลายข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19 ในประเทศแถบเอเชียและการฟื้นตัวของการเดินทางทางอากาศจะช่วยหนุนอัตรากำไรที่แข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์น้ำมันกลุ่มดีเซล


อย่างไรก็ตาม BCP คาดว่าส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินจะลดลงเป็น 7 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล ซึ่งจะจำกัดอัตราการกลั่นของโรงกลั่นทที่ใช้เทคโนโลยี FCC โดยมุมมองดังกล่าวสอดคล้องกับสมมติฐานของฝ่ายวิจัย


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X