#BRR #ทันหุ้น - BRR ปักธงปี 2566 ยอดหีบอ้อยราว 2.4 ล้านตัน จากผลผลิตขยายตัว แถมยิ้มรับเซ็นขายน้ำตาลใหม่เพิ่มเฉลี่ย 20 เซ็นต์ต่อปอนด์ หนุนรายได้พุ่ง ส่วนปี 2565 ย้ำเป้ารายได้ทะยาน 70% จากปีก่อน  ชี้ดีมานด์ทะลัก-ธุรกิจใหม่ดัน พร้อมส่งซิก Q4/2565 แจ่มกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน อานิสงส์น้ำตาลโลกขาขึ้น

นายอนันต์  ตั้งตรงเวชกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยว่า ในปีงวดหีบอ้อยปี 2566 ทาง BRR วางเป้าหมายตัวเลขการหีบไว้ราว2.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดหีบปี2564/2565 ที่ราว 2.35 ล้านตัน เนื่องจากมีผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ภาพรวมบริษัทเติบโตได้ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของBRR เฉพาะธุรกิจผลิตน้ำตาล แบ่งเป็น การส่งออกไปยังต่างประเทศประมาณ70%, การผลิตและจัดจำหน่ายให้กับลูกค้าในประเทศราว30%

บุ๊กราคาขายใหม่

ขณะเดียวกันล่าสุดบริษัทได้มีทยอยเซ็นสัญญาขายน้ำตาลฉบับใหม่ให้กับลูกค้าต่างๆ อย่างต่อเนื่องในงวดการผลผลิตอ้อยในฤดูการผลิตปี2565/66 หลังราคาน้ำตาลในตลาดปัจจุบันขยับสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ยน้ำตาลใหม่ในปีหน้าขยับมาอยู่ที่ราว20 เซ็นต์ต่อปอนด์ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับราคาขายปีก่อนที่เฉลี่ยประมาณ16 เซ็นต์ต่อปอนด์ ซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้รายได้ของธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง

สำหรับผลประกอบปี2565 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต70% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ประมาณ 4.02 พันล้านบาท เนื่อจากทุกธุรกิจในเครือเติบโต หนุนรายได้เติบโตแข็งแกร่ง รวมทั้งบริษัทยังสามารถบริหารจัดการเกี่ยวกับต้นทุนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ธุรกิจใหม่หนุน

ขณะที่ทิศทางผลงานในไตรมาส4/2565 บริษัทคาดว่าจะขยายตัวอย่างชัดเจนจากปีก่อน ผลมาจากปริมาณและราคาขายน้ำตาลขยับสูงขึ้น นอกเหนือ จากรายได้จากธุรกิจใหม่เข้ามาเสริม อาทิ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อย ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ชูการ์เคน อีโคแวร์ จำกัด

ด้านธุรกิจบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อย ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ชูการ์เคน อีโคแวร์ จำกัด (SEW) ซึ่งถือเป็นธุรกิจใหม่ของ BRR นั้นยังมุ่งเน้นการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง หลังล่าสุดมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เพิ่มขึ้นจนเต็ม100% ของกำลังผลิตใช้เครื่องจักรในการผลิตทั้งสิ้น10 เครื่องในเฟสที่ 1 ซึ่งกลายเป็นแรงสนับสนุนการเติบโตอีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ดี ในแง่ของ แนวโน้มค่าเงินบาทล่าสุดที่ยังอ่อนค่าที่ระดับเกือบ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ นั้นนับเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจอีกทางหนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจน้ำตาลมีรายได้จากการส่งออกไปยังต่างประเทศ อยู่ที่ประมาณ 70% จึงจะช่วยผลักดันให้รายได้จากการส่งออกขยายตัวได้ดียิ่งขึ้นด้วย

ลุยชีวมวลทำเงิน

นายอนันต์ กล่าวเสริมว่า ไม่เพียงเท่านั้นบริษัทยังเตรียมที่จะรับรู้รายได้จากธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง หรือ Wood Pellet โดยได้ร่วมกับพันธมิตรจากญี่ปุ่น สปป.ลาว และบริษัท ราชกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH จัดตั้งโรงงานที่สปป.ลาว และมีการปลูกไม้โตเร็ว เช่น กระถินณรงค์ จำนวน 4 หมื่นไร่ โดยลูกค้าญี่ปุ่น ได้เซ็นสัญญาจองซื้อแล้ว 15 ปี เพื่อนำไปผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ในครึ่งหลังของปี2566 เข้ามาเสริมด้วย

อนึ่ง งบการเงินงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 922.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 809.86 ล้านบาท ซึ่งเติบโตอย่างชัดเจนคิดเป็น 719%  จากงวดเดียวกันของปี 2564 ที่มีกำไร 112.62 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 13.81% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอัตรากำไรสุทธิ 3.79% สาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับผลบวกจากราคาน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้น และค่าเงินบาทที่อ่อนค่า

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1