General Motors เข็น EV 10 รุ่นใหม่ เจาะบริการ Robotaxi

#ทันหุ้น - ชวนอัปเดตหุ้น General Motors (GM) เผยงบ 9 เดือนแรก ปี 65 (ม.ค.-ก.ย. 65) รายได้โตเด่น 22% เมื่อเทียบกับปีก่อนและบริษัทคาดยังมีแนวโน้มโต 2 หลักในระยะยาวซึ่งจะมีประเด็นอะไรน่าติดตามบ้าง วันนี้หลักทรัพย์บัวหลวง นำข้อมูลบทวิเคราะห์จากทีม BLS Global Investing ที่ได้สรุปไว้มาฝาก

GM ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก เผยงบ 9 เดือนแรก ปี 65(ม.ค.-ก.ย. 65)เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 65 โดยรายได้โต 22% แตะ 93,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังยอดขายรถในตลาดอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นตลาดหลักโต 27% สู่ 663,000 คัน ขณะที่กำไรต่อหุ้น (EPS) ลดลง 15% สู่ 4.85 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน บริษัทคาด EPS ในปี65 อาจอยู่ที่ 6.75-7.25 ดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งคาดว่ารายได้มีแนวโน้มโตเฉลี่ย 12% ต่อปีในปี 66-68 สู่ราว 225,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยรายได้จากธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อาจแตะระดับ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 68 และคาดว่าจะมีกำไรในอีก 2-3 ปีข้างหน้า หนุนจากการเพิ่มกำลังการผลิตสู่ 1 ล้านคันต่อปี

สำหรับประเด็นการขยายบริการ “GM Cruise” โดย GM Cruise เป็นธุรกิจรถแท็กซี่ขับขี่อัตโนมัติ (Robotaxi) ที่ GM ได้เข้าซื้อกิจการจากบริษัทสตาร์ทอัพ Cruise LLC เมื่อปี 59 ซึ่งปัจจุบันมีราว 100 คัน ให้บริการในเมืองซานฟรานซิสโกของสหรฐั ฯ โดยมีค่าบรการเริ่มต้น 5 ดอลลาร์สหรัฐ และมีค่าบริการตามระยะทางและเวลาที่ใช้เดินทางที่ 0.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ไมล์ และ 0.40 ดอลลาร์สหรัฐ/นาทีรายได้ธุรกิจ GM Cruise ลดลง 4%สู่ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 3 ปี 65 และขาดทุนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 497 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หลังบริษัทลงทุนขยายบริการสู่เมืองฟีนิกซ์เมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐแอริโซนา และออสติน เมืองหลวงของรัฐเท็กซัส โดยตั้งเป้าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้อย่างไรก็ดีเราคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนรายได้ตั้งแต่ปี66 เป็นต้นไป โดยคาดการณ์จาก Bloomberg cons. เผยรายได้ธุรกิจ GM Cruise อาจโตราว 2 เท่า สู่ 328 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 66 และคาดว่าจะเริ่มมีกำไรตั้งแต่ปี 70 เป็นต้นไป

สำหรับประเด็น รถ EV “BrightDrop” ยอดจองแน่น โดย GM ได้เปิดตัวแบรนด์รถ EV ชื่อ “BrightDrop” ในสหรัฐฯ เมื่อม.ค. 64 โดยเน้นเป็นรถขนส่งสินค้า ซึ่งปัจจุบันมี 2 รุ่น ได้แก่ BrightDrop EP1 รถเข็นลำเลียงสินค้าพลังงานไฟฟ้า และ BrightDrop EV600 รถตู้ EV ที่มาพร้อมระบบติดตามรถและตรวจสอบสถานะของแบตเตอรี่ โดยบริษัทคาดว่าแบรนด์ BrightDrop จะสร้างรายได้ราว 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 66 (ประมาณ 1% ของรายได้ปี64) ซึ่งเรามองว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นไปตามคาด หลังบิรษัทจะเริ่มผลิตเพื่อจำหน่าย (Mass Production) ในเดือนธ.ค. 65 และส่งมอบในปี66 ซึ่ง BrightDrop EV600 มียอดสั่งจองมาแล้วกว่า 25,000 คัน จากบริษัทชั้นนำ เช่น FedEx, Walmart, Verizon เป็นต้น โดยแม้ว่าบริษัทจะยังไม่เผยราคา แต่คาดว่าอาจอยู่ที่ราว 45,000 ดอลลาร์สหรัฐ อ้างอิงจากรถเทียบเคียงอย่าง Ford E-Transit

ด้านประเด็นการลงทุนราคาหุ้น GM ปรับลง 33% จากต้นปีมากกว่าดัชนี S&P 500 ที่ลบ 17% อย่างไรก็ดีหุ้นฟื้นราว 4% หลังงาน Investor Day เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 65 โดยบริษัทเผยว่าจะเปิดตัวรถ EV กว่า 10 รุ่นในปี 66 ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนรายได้โต 2 หลักในระยะยาวตามที่บริษัทคาด อีกทั้ง GM ยังมีแนวโน้มได้รับอานิสงส์จากกฎหมาย Inflation Reduction Act ของสหรัฐฯ ที่ให้เครดิตภาษีแก่ผู้ซื้อรถ EV โดยใช้ได้กับรถยนต์ราคาไม่เกิน 55,000 ดอลลาร์สหรัฐ และรถบรรทุกราคาไม่เกิน 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรถ EV ส่วนใหญ่ของ GM มีราคาอยู่ที่ราว 27,000-50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ผู้นำตลาด EV อย่าง Tesla (TSLA) มีเพียงรุ่น Model 3 ที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว ด้านมูลค่าหุ้น GM ยังน่าสนใจ โดย P/E ปี66 อยู่ที่ 6.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 6.9 เท่า ดังนั้นเราจึงมองว่าน่าสนใจในการทยอยลงทุน

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1