ตลาดสดใส แต่วอลุ่มยังไม่มา อย่าชะล่าใจ

#ทันหุ้น - ตามคาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.00% เป็น 1.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันทีสำหรับการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยอีก 2 ปีข้างหน้านั้น คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 3.2% ส่วนปี 2566 อยู่ที่ 3.7% และปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 3.9% เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคเอกชน แม้ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะทำให้ภาคการส่งออกขยายตัวลดลง ประกอบกับข่าวประธานเฟด ส่งสัญญาณ จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไม่ไห้รุนแรงในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นบวกเขียวสดใส

อย่างไรก็ดี ความกังวลเรื่องการเก็บภาษีการซื้อขายหุ้นไทย เป็นปัจจัยกดดันกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่พอสมควร ดูได้จากปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง ประกอบกับหุ้น กลุ่มพลังงานยังเป็นกลุ่มหลักที่กดดันตลาดหุ้นไทย หลังจากราคาน้ำมันตลาดโลก ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องขณะที่การลงทุนกระจุกตัวบางกลุ่ม เช่นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ นำโดย DELTA HANA KCE โดยเฉพาะหุ้น DELTA ถือว่ามีส่วนผลักดันอย่างมากให้ดัชนีปรับตัวขึ้นสดใสอย่างที่เห็น

ภาพที่เห็นยังคงต้องยื้อสู้กันต่อไปสำหรับแรงซื้อแรงขาย ที่ผลัดกันรุกผลัดกันรับ ทำให้การขับเคลื่อนของตลาดยังคงดูลุ่มๆดอนๆ เมื่อแรงซื้อยังไม่มากพอการปรับขึ้นของดัชนีจึงยังคงต้องรอคอยกันต่อไปเนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อการลงทุนในช่วงนี้ยังไม่ฟื้นคืนกลับมา อีกทั้งเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปีที่นักลงทุนจะชะลอการซื้อขาย โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ ที่มีมักหยุดพัก ชะลอกการลงทุนลงในช่วงนี้ของทุกปี

ในเมื่อสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ เราควรจะปรับกลยุทธ์ รูปแบบการลงทุนของเราให้สอดคล้องพริ้วตามตลาดได้อย่างไร เพียงแค่กำหนดกรอบการลงทุนในรอบนี้ให้ชัดเจนว่าจะเล่นเก็งกำไรระยะสั้นเป็นรอบๆ ขึ้นขายลงซื้อ ที่สำคัญต้องมีวินัยอย่างเคร่งครัด มีกำไรตามเป้าหมายต้องขายไม่รอให้กำไรกลายเป็นขาดทุนเด็ดขาด หรือหากผิดทางก็ต้องรีบโดดลงให้ทันรักษาเงินทุนให้ได้มากที่สุด

หากต้องการลงทุนระยะกลางถึงยาว เพียงคัดเลือกหุ้นเป้าหมายที่ผลประกอบการดีขยายตัวขึ้น แต่ราคายังไม่ได้ขึ้นตามพื้นฐาน หรือยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงในอนาคต ยิ่งหากราคามีการอ่อนแรงลดลงตามภาวะของตลาดด้วยแล้วยิ่งน่าสนใจ เข้าเก็บสะสมหุ้นเหล่านี้เข้าพอร์ตแล้วอดทนรอคอย สำคัญจิตใจต้องนิ่งไม่แกว่งไปตามการสวิงขึ้นลงของราคาที่เกิดจากความผันผวนของตลาด ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงไปจากพื้นฐานที่ควรจะเป็น

การลงทุนในตลาดหุ้นนั้นไม่ได้มีอะไรที่สลับซับซ้อน ถ้าเรากำหนดเป้าหมาย เลือกรูปแบบการลงทุนให้เหมาะสมกับตนเองและสอดคล้องกับสถานการณ์ของตลาดในขณะนั้น มีวินัย ปฎิบัติตามสิ่งที่เราวางแผนมาแล้วอย่างดี ให้ดำเนินไปสู่เป้าหมายที่เราคาดหวังเอาไว้ ก็จะสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยจากตลาดหุ้นออกไปได้แน่นอน

ในส่วนของเป้าหมายในการลงทุน ก็จำเป็นต้องตั้งให้เหมาะสมกับความเป็นจริงบนพื้นฐานความสามารถของเรา ไม่ตั้งเป้าหมายบนความเพ้อฝันบนจิตนาการ เพราะจะทำให้การลงทุนของเราผิดเพี้ยนผิดทาง เช่นหากเราตั้งเป้าหมายแบบเลิศลอยสูงส่ง เราจะพยายามหาเล่นหุ้นที่มีการสร้างข่าว เขาบอกมาโดยเราจะขาดการไตร่ตรองที่ดี เพราะเราจะมองแต่หุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่สูงเพียงอย่างเดียว และอย่างที่ทราบกันอยู่แล้วหุ้นประเภทนี้มักจะขาดพื้นฐานขาดเหตุผลรองรับในราคาของหุ้นหากเข้าไปพัวพันด้วยความขาดสติย่อมต้องสร้างความเสียหายมากกว่าผลสำเร็จแน่นอนครับ ดังนั้นการตั้งเป้าหมายที่ดี และรู้ว่าต้องการผลตอบแทนที่เหมาะสมกับเราได้ก็สามารถกำหนดแนวทางการลงทุนของเราได้ โชคดีครับ

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1