#SET #ทันหุ้น - บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,670-1,685 จุด ลดความร้อนแรงลงระยะสั้นหลังปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 9 วันทำการรวมให้ผลตอบแทน 4.6% ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคในส่วน RSI เข้าสู่เขต Overbought ระยะสั้น โดยตลาดตอบรับความคาดหวังเชิงบวกจากข่าวจีนประกาศเปิดประเทศวันที่ 8 ม.ค. ไปพอสมควร หนุนให้กระแสเงินทุนไหลเข้าอย่างหนาแน่นโดยเฉพาะกลุ่ม Reopening Play ส่งผลให้ Upside ในระยะสั้นเริ่มจำกัดมากขึ้นที่บริเวณแนวต้าน 1,700+- จุดและมองเป็นจุดในการแบ่งขายทำกำไรระยะสั้นบางส่วน
นอกจากนี้การปรับขึ้นของดัชนีบางส่วนเป็นผลจาก DELTA ที่พุ่งขึ้นและกระทบ SET Index เป็นบวกกว่า 20 จุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เป็นความเสี่ยงที่อาจเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้น ด้านปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจและกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยในปี 2023 เรายังคงมองว่าแข็งแกร่งภูมิภาคอื่นๆหนุนจากปัจจัยบวกในประเทศเป็นหลัก เราจึงยังชอบกลุ่ม Domestic/Consumption และ Reopening Play
กลยุทธ์ : เน้นลงทุนในกลุ่ม Domestic/Reopening Play//ทำกำไรระยะสั้นบางส่วนช่วงตลาดปรับขึ้นบริเวณ 1,700+- จุด
หุ้นเด่นเดือนม.ค. : AAV, BCP, CENTEL, M, MAKRO
หุ้นเด่นวันนี้ : M
• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 66 บาท
• โมเมนตัมกำไร 4Q22 คาดเร่งตัวขึ้น Q-Q และ Y-Y ตาม Festive Season หนุน Traffic ให้ปรับขึ้น ขณะที่ฝั่ง Margin คาดว่าดีและการขึ้นราคาในปีนี้ที่ผ่านมาชดเชยต้นทุนที่เพิ่มได้ทั้งหมด
• เราคาดกำไรปี 2022 เติบโต 11 เท่าตัว Y-Y จากฐานต่ำปีก่อน และคาดเร่งตัวแรงอีก +47% Y-Y กลับมาเข้าใกล้ช่วงก่อน COVID-19 ได้ตามการ Reopening เต็มปี นอกจากนี้การเปิดประเทศของจีนจะเป็น Catalyst บวกต่อผลการดำเนินงานของแหลมเจริญระยะถัดไป
• แนวรับ 59.50-59//58 บาท แนวต้าน 61//62.50 บาท
**บล.ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดดัชนีฯ แกว่งกรอบแคบ รอดูจีนเปิดประเทศอาจมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม และเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัว โดยตลาดหุ้นทั่วโลกยังมีความกังวลในเรื่องของจีน ว่าเมื่อเปิดประเทศ จะมีผู้ติดเชื้อในประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้น และภาวะRecession ของสหรัฐฯ
Sector ที่จะบอกได้ว่า เศรษฐกิจจีน+สหรัฐฯ ฟื้นจริง คือ อิเล็กทรอนิกส์+เดินเรือ+Logistics โดยเราให้น้ำหนักในทางบวกไว้ก่อนเพราะคาดว่า อีกไม่นาน ความกังวลในเรื่องนี้จะลดลง
วิกฤตของ Gas คลี่คลายลงจากสภาพอากาศที่อุ่นขึ้น ทำให้ราคา Gas (สหรัฐฯ) ปรับตัวลงมา ล่าสุดอยู่ที่ 4 เหรียญ/ล้าน BTU ซึ่งจะมีผลลบต่อราคาหุ้น BANPU ขณะที่ราคาน้ำมัน ถูกกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
การเมืองไทย เริ่มคาดการณ์ว่าจะมีการยุบสภาหลังร่างงบประมาณปี ‘67 ผ่าน ครม. มี 2 ช่วง คือ 10 ม.ค. และกลางเดือน มี.ค.
นักลงทุนต่างชาติ Net buy หุ้นไทยวานนี้(3) 1.4 พันล้านบาท (ปี 2022 Net buy ทั้งปี 1.9 แสนล้านบาท) คาดเม็ดเงินต่างชาติอาจจะเริ่มไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทย หลัง Net Buy ต่อเนื่องมาตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ คือ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย เดือน ธ.ค.
Strategy
• หากตัด DELTA ออกไปวานนี้ ที่มีผลบวกต่อดัชนีฯ ถึง 10 จุด จะเห็นว่าดัชนีฯ ปิดแค่เสมอตัว เป็นสัญญาณว่า นักลงทุนยังไม่กลับเข้ามาในตลาด และความกังวลในเรื่องการเปิดประเทศจีนยังมีอยู่ .... เรายังแนะนำให้อยู่ฝั่งซื้อ แต่รอให้ดัชนีฯอ่อนตัวลงมา เรามองโซนการซื้อไว้ที่ 1660-1670 จุด
• หุ้น high Dividend yield ดักซื้อก่อนประกาศงบ PTT, KKP
• พอร์ตหุ้นวันนี้เรานำหุ้น BANPU, JMART* ออกจากพอร์ต และนำหุ้น WHA, TIPH*, PLUS* เข้ามาในพอร์ต หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย WHA(10%), TIPH*(10%), PLUS*(10%), KCE(10%), KTB(10%), PTTEP(10%), SAPPE*(10%)
Strategy Stock Pick
WHA: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 4.50 บาท) “จีนเปิดประเทศหนุนลงทุน ยอด BOI ไทยเพิ่มต่อเนื่อง”
•แนวโน้มยอดขายและโอนที่ดินเร่งตัวขึ้น จีนเปิดประเทศเร็วเป็นบวก ด้านสถิติ BOI 9 เดือน ‘22 ยอดการอนุมัติให้ส่งเสริมแตะ 5 แสน ลบ. +43%YoY ยอดการออกบัตรส่งเสริม +57%YoY ที่ 3.57 แสน ลบ. บวกต่อกลุ่มนิคม
•ยอดโอนที่ดินปี ’23 จะมีแปลงใหญ่มากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่ม EV อาทิ BYD 1.4 พัน ไร่ คาดผู้ผลิต EV รายอื่นและ Supply Chain จะทยอยเร่งตัวขึ้นตามมา
•DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2022-2023 ที่ 3.17 พัน ลบ. และ 4 พัน ลบ. +23%YoY, +29%YoY ตามลำดับ
Technical : NCAP, ILM
**บล.คิงส์ฟอร์ด จำกัด วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,668 ยืนได้ต่อพอร์ต โดยมีแนวต้าน 1,690 – 1,694 แนะนำขายทำกำไรหากดัชนีปรับถึงแนวต้าน แนะนำเก็งกำไร HANA,KCE /ยา,วิตามิน MEGA,IP/ ค้าปลีก& ร้านอาหาร COM7, BEAUTY, KISS, AU, M
MAKRO* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 40.50 บาท) เรามองว่าแนวโน้มผลประกอบการ 4Q64 จะฟื้นตัว QoQ เนื่องจากเป็น High Season ของการจับจ่ายใช้สอย การท่องเที่ยว และได้ประโยชน์จากรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจท้ายปี ส่งผลบวกต่อ SSSG กลับมาเติบโต ทั้งในส่วนของ MAKRO และ Lotus’s ขณะที่ในปี 66 จะเห็นโมเมนตัมการเติบโตต่อเนื่องจากผลของการ Synergy ธุรกิจที่ซื้อเข้ามา ค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง และแผนในการปรับโครงสร้างหนี้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการเพิ่ม Free Float ทำให้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในดัชนีอ้างอิงในอนาคต
ILM* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 23.30 บาท) คาดภาพการดำเนินงานได้แรงหนุนจากสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 คลี่คลาย การกลับมารับรู้รายได้ค่าเช่า และการฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯ ขณะที่ไตรมาสที่4/65 เป็น High Season และมีประเด็นเสริมจากการซ่อมแซมบ้าน(น้ำท่วม) สำหรับช่วง 1Q66 ยังจะมีปัจจัยบวกจาก ม.ช้อปดีมีคืน และ โครงการเปิดใหม่(16 ธ.ค.65) คือ โครงการLittle Walk ลาดกระบัง บนพื้นที่ 7,646 sq.m. ประกอบด้วย ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม และบริการต่างๆ กว่า 40 ร้านค้า รวมถึง INDEX LIVING MALL สาขาลาดกระบัง พื้นที่ 4,000 sq.m. ทั้งนี้ตลาดคาดว่าในปี65 และ66 กำไรสุทธิของ ILM* จะสามารถขยายตัวได้โดดเด่นมาอยู่ที่ระดับ 642 ลบ. (+42%YoY) และ 701 ลบ.(+9%YoY) ตามลำดับ
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม