#JWD #ทันหุ้น – JWD ปักธงรายได้ปี 2566 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% วางงบ 3-4 พันล้านบาท รองรับการซ่อมบำรุง และควบรวมกิจการ แย้มอยู่ระหว่างศึกษาดีลใหม่มากกว่า 10 โปรเจ็กต์ คาดจะทยอยได้เห็นข้อสรุปในไม่ช้า ด้านการรวมกิจการ SCGL คาดจบกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2566

ดร.เอกพงษ์  ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD  ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทวางเป้ารายได้แบบ Organic Growth ไว้ที่มากกว่า 15% จากปีก่อน (ไม่นับรวมงบจาก SCGL ที่กำลังจะเข้ามาเพิ่ม)

โดยมองว่าในปี 2566ธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มการขยายตัวที่ค่อนข้างดี โดยเฉพาะในส่วนของโลจิสติกส์ยานยนต์ที่ได้รับอานิสงส์จากกระแสความสนใจใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (Ev Car) ทำให้ปัจจุบันบริษัทได้รับความสนใจจากลูกค้ารายใหม่เข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในส่วนของโลจิสติกส์ยานยนต์ทำสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 10 ปี ในเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา

ด้านธุรกิจคลังสินค้าทั่วไปก็มีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยความต้องการใช้งานที่เพิ่มสูงส่งผลให้อัตราการเช่าพื้นที่ปัจจุบันเต็ม 100% แล้ว เช่นเดียวกันกับคลังสินค้าประเภทห้องเย็น โดยแผนการลงทุนในปี 2566 บริษัทวางงบไว้ที่ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท รองรับการลงทุนดูแลรักษาและซ่อมบำรุง ตลอดจนการควบรวมกิจการ (M&A) และการร่วมทุน (JV) ที่อาจเกิดขึ้นใหม่ในปีนี้

*ควบรวมจบก.พ.นี้

ส่วนการรวมกิจการกับ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SCGL) นั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงกลางเดือนกุมภาพพันธ์ 2566 หลังจากนั้น JWD จะดำเนินการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) โดยใช้ตัวย่อ “SJWD” ซึ่งหลังจากนั้นจะเห็น Synergy หลักๆ จะมีในเรื่องของการหาแนวทางร่วมเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน (Financial Costs) เช่น การซื้อประกันภัย รวมถึงการจัดซื้อน้ำมันล็อตใหญ่พร้อมกัน ตลอดจนการ Upgrade Rating ใหม่ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวคาดว่าจะช่วยหนุนผลงานขยายตัวได้อีก 5-8%

ขณะเดียวกันบริษัทยังมีความสนใจและเปิดโอกาสในการศึกษาการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและสามารถต่อยอด หรือเพิ่มศักยภาพและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรูปแบบของการควบรวมกิจการ (M&A) ปัจจุบันมีที่อยู่ในระหว่างการศึกษาอยู่ในมือมากว่า 10 ดีล คาดว่าจะทยอยได้เห็นข้อสรุปที่ชัดเจนในระยะถัดไป

*กูรูมองบวกเชียร์"ซื้อ"

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง JWD ว่า คาดการณ์กำไรปกติในไตรมาส 4/2565 จะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 150 ล้านบาท สนับสนุนโดยธุรกิจยานยนต์ และสินค้าอันตรายมีแนวโน้มฟื้นตัว ทั้งนี้ปรับประมาณการกำไรปี 2566 ขึ้น 70% จากการรวมกำไรของ SCGL คาดเริ่มเห็น Synergy ในช่วงครึ่งหลังปี 2566และหลังจากนี้จะเห็นการ M&A ที่ Aggressive มากขึ้น เพราะ IBD/E หลัง M&A ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ JWD หลังผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 3/2565โดยคาดกำไรทำ New High ได้ในช่วงไตรมาส 1/2565-2/2566 ทั้งนี้ การปรับประมาณการกำไรขึ้น และปรับเพิ่ม PER ขึ้นจาก 30 เท่า เป็น 34.5 เท่า (+0.25SD + 2% ESG Premium) ได้ราคาเป้าหมายใหม่เป็น 24.20 บาท และซื้อขายที่ PER ปี 2566 เพียง 26.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 6 ปี ที่ 31.1 เท่า ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ซื้อ"

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1