#EKH #ทันหุ้น - EKH ปักธงรายได้รวมปี 2566 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน มองผู้ป่วยโควิด-19 เป็นฐานลูกค้าใหม่ ยิ้มจีนเปิดประเทศเป็นบวก ตั้งเป้าหมายรับลูกค้า IVF 300 คู่ แย้มยังมีดีลซื้อกิจการธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสุขภาพเพิ่มเติม 2-3 ดีล

นายนัทธ์  เอื้ออารีมิตร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้ารายได้เติบโตมากกว่า 10% จากปีก่อน หลักๆ เป็นผลมาจากความต้องการในการดูแลรักษาและตรวจสุขภาพที่ขยายตัว นอกจากนี้ มองว่ากลุ่มคนไข้ติดเชื้อโควิด-19 จะกลายมาเป็นฐานลูกค้าใหม่ เพราะเชื่อว่าการระบาดจะยังคงมีอยู่ และมีแนวโน้มที่เชื้อจะกลายพันธุ์ต่อ

ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวยังไม่ถูกนับรวมการฟื้นตัวของกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่จะกลับมาใช้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) แม้ว่าการที่รัฐบาลจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และเปิดประเทศโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 แล้วจะเป็นผลบวกต่อลูกค้าของบริษัท แต่ก็ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่มากทำให้อาจต้องจับตาดูอย่างใกล้ชัดต่อไป อย่างไรก็ดี เบื้องต้นบริษัทตั้งเป้าลูกค้ามาใช้บริการจำนวน 300 คู่ จากปี 2565 มีลูกค้าใช้บริการ 100 คู่

*ขยายรพ.คูนเพิ่ม

ขณะที่โรงพยาบาลคูนที่เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุนั้น มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องในปี 2566 โดยคาดว่าภายในปีนี้จะไม่มีผลขาดทุนและทำกำไรได้แล้ว อีกทั้งยังมีแผนที่จะขยายสาขาใม่เพิ่มเติม ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งการลงทุนเองและการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ ปัจจุบันบริษัทได้มีการศึกษาทำเลศักยภาพไปบ้างแล้ว คาดว่าภายในปีนี้จะได้ข้อสรุปของการลงทุน

พร้อมกันนี้ หากว่าอัตราการครองเตียง (Occupancy Rate) อยู่ในระดับเฉลี่ยที่สูงกว่า 70% อย่างต่อเนื่อง บริษัทจะมีการพิจารณาสร้างอาคารแห่งใหม่ภายในบริเวณเดิมหรือพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับคนไข้ที่สูงขึ้นได้เพิ่มในอนาคต ซึ่งการลงทุนดังกล่าวอาจเกิดขึ้นในระยะ 2-3 ปีจากนี้ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันอัตราครองเตียงรวมทั้งในส่วนของผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) ยังอยู่ที่ระดับเหนือ 70% อยู่

“ปัจจุบันเรายังคงให้ความสนใจในการลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพอยู่ ทั้งในรูปแบบ M&A หรือ JV หรือสร้าง Synergy ร่วมกับพาร์ตเนอร์ใหม่ๆ ซึ่งตอนนี้มีที่อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกันอยู่ราว 2-3 ดีล มีทั้งที่อยู่ในตลาดและนอกตลาดแต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดที่ชัดเจนได้ว่าจะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ เพราะยังเป็นระยะเริ่มต้นของการศึกษาอยู่” นายนัทธ์ กล่าว

*กูรูแนะถือเป้า 9 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง EKH ว่า คงนะนำ “ถือ” แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9.00 บาท จากเดิม 8.50 บาท จากการปรับกำไรปี 2566 ขึ้น โดยคาดกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ 59 ล้านบาท ลดลง 34% YoY และหดตัว 22% QoQ โดยการหดตัวทั้งเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน จากฐานในปี 2564 ที่สูงจากรายได้โควิด

และลดลงจากไตรมาสก่อนเพราะไตรมาส 3 เป็นช่วงไฮซีซัน ทั้งนี้ทางฝ่ายคาดว่า Occupancy Rate ในไตรมาส 4/2565 จะอยู่ที่ราว 80% QoQ แต่ทรงตัวYoYเนื่องจากไตรมาส 4/2565 มีฝนตกนอกฤดูกาลทำให้ไข้หวัดหน้าฝนแพร่นานกว่าปีกติ รวมถึงอุบัติเหตุรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงวันหยุดยาว และไตรมาส 4/2565 มีการบันทึกผลขาดทุนของวัคซีนราว 1 ล้านบาท

ดังนั้น ทางฝ่ายยังคงประมานการกำไรปี 2565 ที่ 258 ล้านบาท ลดลง 25% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน แต่ปรับกำไรปี 2566 ขึ้น 4% เป็น 257 ล้านบาท จากการปรับรายได้ของศูนย์ IVF ขึ้น โดยคาดว่าจะมีผู้เข้ารับบริการศูนย์ IVF 350 คู่ (เดิมคาด 300 คู่) จากจีนจะเปิดประเทศวันที่ 8 มกราคม 2566 ( เดิมคาดว่าจะเปิดในไตรมาส 2/2566) ทั้งนี้จากการที่รัฐบาลจีนได้ออกนโยบายให้มีลูกคนที่ 3 ได้ ในช่วงการระบาดโควิด ทำให้มีความต้องการเดินทางมารับบริการ IVF จำนวนมาก

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1