> SET > JTS

17 มกราคม 2023 เวลา 07:30 น.

ปมหุ้นบิทคอยน์ดีด กูรูชี้ไม่ใช่รอบใหญ่

#บิทคอยน์ #ทันหุ้น – นายกฟินเทค ประสานเสียงบิทคอยน์ขึ้นรอบนี้ยังไม่ใช้รอบใหญ่ ชี้ดอลลาร์อ่อนค่า เม็ดเงินเข้านิดเดียวก็ขึ้นแล้ว ติดตามความเสี่ยงการล้มลงของกระดานเทรดคริปโต เชื่อไบแนนซ์แกร่งอยู่ได้ แนะยังต้องระวังหุ้นขุดเหมือง ด้าน อ.พิริยะ ยกเทคนิคชี้ขาลง 2 รอบที่ผ่านมาหล่นลึกกว่านี้ แม้มีโอกาสขึ้นแต่ยังไม่เทรด ส่วน “อ.มนต์ชัย” ชี้เป้าบิทคอยน์ชัด


หุ้นที่เกี่ยวพันกับสินทรัพย์ดิจิทัลต่างพุ่งขึ้นอย่างโดดเด่น ท่ามกลางราคาบิทคอยน์ที่ปรับตัวแตะในระดับ 21,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อบิทคอยน์อย่างรวดเร็ว ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 เดือนที่บิทคอยน์ขึ้นมายืนเหนือ 20,000 ดอลลาร์ นับจากเดือนพฤศจิกายน 2565 โดยวานนี้ JTS ปิดที่ 52.25 บาทเพิ่มขึ้น 8.85% ด้าน UPA ปิดที่ 0.25 บาทเพิ่มขึ้น 8.70% ส่วน BROOK ปิดที่ 0.49 บาทเพิ่มขึ้น 4.26% และ ZIGA ปิดที่ 4 บาทเพิ่มขึ้น 11.73%


นายชลเดช เขมะรัตนา นายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ที่เหรียญคริปโตปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง ยังไม่มีปัจจัยใดๆ สำคัญ นอกจากการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทำให้เม็ดเงินไหลเข้ามาสู่สินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งตลาดคริปโตเคอร์เรนซีนับเป็นตลาดที่ไม่ไหลมากนัก จึงใช้เงินไม่เยอะก็สามารถที่จะดันให้สินทรัพย์มี่ราคาเพิ่มขึ้น ทั้งหมดเป็นผลมาจากความกังวลในการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกาลดลง และมีกระแสถึงการเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปี ท่ามกลางที่ประเทศอื่นๆ ยังคงเดินหน้าเศรษฐกิจหลังโควิด เช่น จีน ที่เพิ่่งเปิดประเทศ ทำให้เม็ดเงินไหลออกจากดอลลาร์ไปตลาดอื่นๆ รวมถึง "คริปโตเคอร์เรนซี" ด้วย


แม้ว่าบิทคอยน์ยังคงจะมีความเสี่ยงใน ด้านความไม่ชัดเจนของบริษัทที่ดำเนินธุรกรรมด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่อาจจะมีการล้มลงเพิ่มขึ้นหลังจาก ที่กระดานซื้อขายรายใหญ่อย่าง FTX ล่มสลาย แต่เชื่อว่าความกังวลด้านโดมิโน่ น่าจะใกล้ๆจบแล้ว โดยเฉพาะกระดานซื้อขายเบอร์หนึ่งอย่าง ไบแนนซ์ ที่มีโอกาสจะอยู่รอดได้ แม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีการถอนเหรียญออกก็ตาม ดังนั้นเชื่อว่าถ้าจะมีการล้มลงก็น่าจะเป้นกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลรายกลาง รายเล็ก ซึ่งก็จะไม่ได้ทำให้เกิดวิกฤติ


อย่างไรก็ตามมองว่าการขึ้นครั้งนี้ยังไม่ใช่การกลับมาแบบยาวเพราะยังไม่มีปัจจัยสนับสนุนอื่น ควรเล่นเก็งกำไรระยะสั้น โดยการปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นน่าจะเป็นปี 2024ที่บิทคอยน์จะลดการปล่อยเหรียญลงอีกครึ่งหนึ่ง


นายชลเดช ยอมรับว่า การขึ้นมาของบิทคอยน์ได้ทำให้ตลาดเหรียญต่างๆคึกคัก และทำให้โทเคนที่อยู่ในไทยขึ้นอย่างแรงด้วยเช่นกัน ซึ่งนักลงทุนจะต้องศึกษาให้ดี


@ขุดเหมืองรับประโยชน์น้อย


ส่วนหุ้นไทยที่เกี่ยวพันกับการดำเนินเหมืองขุดเหรียญที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างแรงนั้น มองว่าการรับประโยชน์จะน้อยกว่า ผู้ที่ลงทุนเหรียญในราคาต่ำ เนื่องจากการบริษัทผู้ลงทุนเหมืองขุดบิทคอยน์ที่ผ่านมามีต้นทุนที่สูงอยู่แล้ว ทั้งเฉพาะค่าเครื่องที่ซื้อมาก่อนหน้า ขณะที่ค่าพลังงานขุดไทยที่มีต้นทุนค่าไฟฟ้าที่พุ่งขึ้นมาด้วย ประกอบกับในการขุดเหรียญนั้นเมื่อราคาเพิ่มขึ้นก็จะมีผู้ที่ลงทุนขุดเหรียญเพิ่มขึ้นมาทำให้จำนวนเหรียญน้อยลง ดังนั้นจึงยังต้องระมัดระวัง ส่วนตัวยันยืนว่าการลงทุนบิทคอยน์ด้วยตัวเอง จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า การลงทุนหุ้นเหมืองขุดเหรียญ


@ยังไม่เทรดบิทคอยน์


ด้านนายพิริยะ สัมพันธารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฉลกดอทคอม จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน และกราฟเทคนิคคอล กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับบิทคอยน์ที่วิ่งขึ้นมา แต่กรณีที่ทั้งบิทคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ที่มีเงินนอกเข้ามาดันทั้งหมดเช่นนี้ น่าจะเกิดจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐที่มีโอกาสชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้เงินไหลออกมาเข้าสินทรัพย์เหล่านี้ ซึ่งหากดูตามกราฟแล้วตอนนี้เป็นไปได้หมดเลยทั้งโอกาสในการขึ้นและลง เนื่องจากก่อนหน้านี้มีบิทคอยน์หล่นลงไปถึงในระดับต่ำสุดที่ราว 1.5 หมื่นดอลลาร์ต่อบิทคอยน์ ราว 78.6% จากราคาสูงสุดแล้ว ดังนั้นถ้าตามหลักปกติก็สามารถที่จะจบขาลงและขึ้นได้


แต่จากการดูประวัติศาสตร์การร่วงลงของบิทคอยน์ทั้งปี 2012 และ 2017 ที่ผ่านมาจะมีการร่วงลงจากระดับสูงสุดราว 88.7%ดังนั้นจุดที่ลงได้มากสุดก็จะอยู่ 1 หมื่นดอลลาร์ มีเพียงรอบนี้ที่หล่นมาจากระดับสูงสุดไม่ถึง ดังนั้นก็เป็นไปได้ว่าจะขึ้นไปและลงได้เช่นกัน


อย่างไรก็ตามมองว่าการขึ้นรอบนี้น่าจะกลับจากขาลงดาวน์เทรนด์มาเป็นไซด์เวย์ออกด้านข้างก่อน ส่วนปัจจัยที่ก่อดันก่อนหน้านั้นคือการล่มสลายของ FTX นั้น ต้องเปรียบว่าบิทคอยน์คือแก่นและมีส่วนที่ผุพังรอบๆ ตอนนี้ส่วนผุพังได้ร่วงไปแล้ว แต่แก่นยังไม่เป็นไร ซึ่งที่หลายคนจับตาไปที่ ไบแนนซ์ ล่มหรือไม่นั้น มองว่าถึงตอนนี้ยังไม่เป็นไร แม้ที่ผ่านมาจะมีการแห่ถอนเหรียญออกมา แต่ไบแนนซ์ก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามีสำรองพอสมควร ที่ผ่านมาก็ได้ให้คำแนะนำถอนเหรียญมาเก็บในกระเป๋าเพื่อที่จะรักษาความปลอดภัย และเป็นการพิสูจน์ว่าไบแนนซ์อยู่ได้หรือไม่


แต่ส่วนตัวตอนนี้ไม่ได้เทรดบิทคอยน์ เนื่องจากยังกังวลกับปัญหาของกระดานเทรดต่างๆ อยู่ จังหวะนี้เป็นจังหวะที่ถือ บิทคอยน์ สะสมมากกว่า


@เป้าบิทคอยน์หยุดที่ใด


ด้านนายมนต์ชัย คงธนภักดี ผู้ก่อตั้งสมาคมนักวิเคราะห์ทางเทคนิค เปิดเผยว่า บิทคอยน์ได้ขึ้นมาอย่างแรงทะลุแนวโน้มขาลงที่ 17,600 ดอลลาร์ขึ้นมา และผ่าน 19,200 ดอลลาร์อย่างเร็ว จากนี้จะมีแนวต้านอยู่บริเวณ 21,000 – 23,500 ดอลลาร์ และต้องระวังหากขึ้นไปแตะ 28,000 – 30,600 ดอลลาร์


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X