#THANI #ทันหุ้น – THANI มองธุรกิจปี 2566 ขยายตัวดี รับอานิสงส์การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการเปิดประเทศ หนุนดีมานด์โลจิสติกส์พุ่ง คาดยอดสินเชื่อใหม่เดือนแรกแตะระดับ 2.4-2.5 พันล้านบาท ปักธงทั้งปียอดสินเชื่อใหม่ยืนเหนือ 3 หมื่นล้านบาท โต 12-15% คุมเข้ม NPL ต่ำระดับ 3% พร้อมวางแผนรับมือต้นทุนทางการเงินสูง ล็อกดอกเบี้ยระยะยาว ลดความเสี่ยงจากการผันผวนของอัตราดอกเบี้ย

นายวิรัตน์  ชินประพินพร ประธานกรรมการ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2566 แนวโน้มธุรกิจยังมีการขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้น การกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ทำให้บรรยากาศต่างๆ รวมถึงการอุปโภคและบริโภคภายในประเทศกลับมามีความคึกคักมากขึ้น ความต้องการสินเชื่อเพื่อดำเนินและหมุนเวียนในธุรกิจเองก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

อีกทั้งจากการที่ประเทศจีนยกเลิกมาตรการ Zero Covid และปิดให้มีการเดินทางระหว่างประเทศได้มากขึ้น ยังเป็นผลบวกต่อการเข้ามาลงทุนในไทย รวมถึงการส่งออกสินค้าเช่นเดียวกัน ส่งผลบวกต่อความต้องการโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น โดยนับตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบันยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่มีการขยายตัวที่ค่อนข้างดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ทำให้คาดว่ายอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ในเดือนแรกของปีนี้อาจแตะที่ระดับราว 2,400-2,500 ล้านบาทได้

*สินเชื่อใหม่โต

ทั้งนี้ในปี 2566 บริษัทวางเป้ายอดการปล่อยสินเชื่อใหม่เบื้องต้นไว้ที่ระดับ 30,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 12-15% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ขณะเดียวกันบริษัทยังคงให้ความสำคัญในการดูแลและควบคุมหนี้สงสัยจะสูญให้ไม่เกิน 3% มองว่าจากภาพรวมเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัวดีขึ้นผู้ประกอบการธุรกิจกลับมาดำเนินการได้ดีมากขึ้น จะทำให้มีความสามารถในการชำระหนี้ตรงกำหนดมากขึ้นตามไปด้วย

ขณะเดียวกันแม้ว่าต้นทุนในปี 2566 มีแนวโน้มสูงขึ้นตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนั้น บริษัทได้วางแผนรับมือความเสี่ยงดังกล่าวด้วยการปรับพอร์ตใหม่เพื่อลดต้นทุนทางการเงินและล็อกดอกเบี้ยในระยะยาวให้มากขึ้น โดยการออกบอนด์ระยะยาวในสัดส่วน 60-70% และระยะสั้น 30-40% เพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนของอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี แม้ในปี 2566 อัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในขาขึ้น แต่ก็มองว่าจะปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปและไม่รุนแรงเท่าปีนี้

สำหรับปัจจุบันสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อรวมของบริษัทแบ่งออกเป็นสัดส่วนสินเชื่อรถบรรทุก มากกว่า 69% (รถบรรทุกใหม่ 70% และรถบรรทุกมือสอง 30%), รถซูเปอร์คาร์และรถหรู ประมาณ 24%, รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 2%, แท็กซี่ 1% และสินเชื่อเช่าซื้อประเภทอื่นๆ เช่น รถยนต์ส่วนบุคคล รถกระบะ รถแทรกเตอร์ รถบัส ราว 4% เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีส่วนสินเชื่อเรือยอร์ช และเจ็ตสกี เข้ามาเพิ่มเติมอีกด้วย หากว่าการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในสินเชื่อส่วนนี้ก็จะได้รับอานิสงส์เช่นเดียวกัน

*กำไรปี 65 โต 14%

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 5.00 บาท เพราะมองเป็นบวกต่อ THANI จากเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 2566 ที่ 3.0 หมื่นล้านบาท หนุนให้ยอดสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 6.0 หมื่นล้านบาท (สูงกว่าคาดที่ 5.7 หมื่นล้านบาท), Loan Yield จะเพิ่มขึ้น จากการทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย +25bps และเริ่มปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนที่มี Loan Yield สูงกว่าสินเชื่อเช่าซื้อโดยเปรียบเทียบ และ NPL จะต่ำกว่า 3%

ขณะที่ Cost To Income จะยังสูงไม่ต่ำกว่า 20% ทั้งนี้คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ไว้ที่ 1.95 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14%YoY และปี 2566 ที่ 2.14 พันล้านบาท เติบโต 10%YoYจากสินเชื่อที่กลับมาขยายตัวตามเศรษฐกิจในประเทศ และเริ่มธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียน

นอกจากนี้ประเมินว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 4/2565 จะขยายตัวทั้งเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนและจากไตรมาสก่อนหน้า จากสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล, Loan Yield ที่ดีขึ้น จากสัดส่วนรถบรรทุกมือสองที่สูง รวมทั้ง NPL ที่ลดลง จากการติดตามหนี้ที่เข้มงวด

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1