> กองทุน >

23 มกราคม 2023 เวลา 12:17 น.

IPO กองทุนใหม่คาร์บอนเครดิต สินทรัพย์ทางเลือกโอกาสทางรุ่ง

#บลจ.แอสเซท พลัส #ทันหุ้น บลจ.แอสเซท พลัส ออกตัวไว ปล่อย “กองทุนคาร์บอนเครดิต” เสนอขายนักลงทุนรายใหญ่ ได้สิทธิเข้าถึงโอกาสก่อนใคร กับเมกะเทรนด์รักษ์โลก เปิดมุมมอง “คาร์บอนเครดิต” นอกจากเครื่องมือจัดระเบียนธุรกิจ ยังเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่คาดว่าให้ผลตอบแทนสูง ราคาซื้อขายคาร์บอนเครดิต ปัจจุบัน 46.73 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน Co2 มีโอกาส 50-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน Co2 ปี 2573


นายคมสัน ผลานุสนธิ กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด หรือ บลจ.แอสเซท พลัส กล่าวว่า ตลาดคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) ค่อนข้างใหม่สำหรับไทย แต่ในต่างประเทศมีการซื้อขายคาร์บอนเครดิตมาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะในยุโรปให้ความจริงจังกับเรื่องนี้มาก ทำให้ตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตแอคทีฟมากขึ้น (Active) ในช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมา


ขณะที่สหรัฐอเมริกา และ จีน ต่างก็ให้ความสำคัญกับตลาดคาร์บอนเครดิต มุ่งลดอุณหภูมิโลกร้อน โดยลดการปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) กล่าวได้ว่า แม้จีน และสหรัฐ เห็นต่าง และขัดแย้งกันในบางเรื่อง แต่เป้าหมายการลดโลกร้อนเป็นสิ่งเดียวที่ทั้งสองประเทศเห็นพ้องต้องกัน


นายคมสัน ชี้ว่า การปล่อยก๊าซ CO2จนนำไปสู่ภาวะเรือนกระจก อนุภูมิโลกที่ร้อนขึ้นนำมาสู่ภัยพิบัติ หรือภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้น และไม่ได้กระทบแค่ในประเทศที่ปล่อยก๊าซ CO2 สูงมากอย่างจีน และสหรัฐเท่านั้น แต่ภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นนั้นเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ สร้างเสียหายซึ่งกระทบกับคนทั่วโลก



คาร์บอนเครดิตเติบโต

ตลาดคาร์บอนเครดิตมีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลของแต่ละประเทศให้ความสำคัญการลดการปล่อยคาร์บอนให้เหลือศูนย์ (Net Zero Targets) ความเอาจริงเอาจังจะเพิ่มมากขึ้นเพราะทุกวันนี้ มนุษย์ยังไม่สามารถลดอุณหภูมิของโลกลงได้ตามเป้าหมาย จะยิ่งเร่งความเข้มงวดในการควบคุมของภาครัฐอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม


นายคมสัน อธิบายว่า คาร์บอนเครดิต เทียบก็เหมือนกับการเก็บภาษี ภาครัฐจะกำหนดควบคุมอุตสาหกรรมต่างๆ เช่นอุตสาหกรรมพลังงาน ห้ามปล่อยก๊าซ CO2 เกินกี่ตัน ถ้าเกินจะต้องจ่ายเงินให้กับภาครัฐ หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องลดคาร์บอนด้วยการทำกิจกรรมรักษาสิ่งแวดล้อม 


เช่น การปลูกต้นไม้ การใช้พลังงานสะอาด ทดแทนพลังงานฟอสซิลแบบดั่งเดิม แต่ถ้าผลิตได้มาก สามารถนำกิจกรรมดังกล่าวไปออกใบรับรองในการซื้อหรือขายคาร์บอนเครดิตที่ตนผลิตได้ เพื่อนําไปขายต่อในอุตสาหกรรมหรือองค์กรอื่นที่ต้องการคาร์บอนเครดิต



หลายธุรกิจคุมคาร์บอน

แน่นอนว่าต้องมีกลุ่มธุรกิจที่ปล่อยก๊าซ CO2 มากเข้ามาซื้อ เช่น ธุรกิจถ่านหิน พลังงาน ไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งในอนาคตก็จะขยายในยังหลายๆธุรกิจ หรืออุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างฟาร์มปศุสัตว์ โดยเฉพาะฟาร์มเลี้ยงวัว ว่ากันว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซ CO2 สูงมาก รวมถึงล่าสุด ทางยุโรป เตรียมควบคุมอุตสาหกรรมการบิน เดินเรือ ในเรื่องของการปล่อยก๊าซ Co2


“ในอดีตเราอาจได้ยินข่าวเรื่องเอกชนล็อบบี้หน่วยงานรัฐ เพื่อให้ประเด็นเรื่องของการดูแลสิ่งแวดล้อมไม่สามารถเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมได้ แต่ปัจจุบันเรามองว่าเอกชนจะไม่สามารถล็อบบี้ได้ เพราะผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมไม่ได้เกิดขึ้นกับประเทศใดประเทศหนึ่ง แถมความรุนแรงมากขึ้น จนนำไปสู่ข้อตกลงความร่วมมืออย่างจริงทั่วโลก และมีผลโดยตรงต่อการเติบโตของตลาดบาร์อบนเครดิต




นายคมสัน กล่าวต่อไปว่า ตลาดคาร์บอนเครดิตมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยความต้องการคาร์บอนเครดิตเพิ่มขึ้น 100 เท่าในปี 2593 (Source: McKinsey as of Jan 2022) จุดนี้จะเป็นโอกาสที่น่าเข้าไปลงทุนเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต ปัจจุบันราคาคาร์บอนเครดิตอยู่ที่ 46.73 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน Co2


ขณะที่ The World Bank มองว่าราคาคาร์บอนที่เหมาะสมควรอยู่ระหว่าง 50-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน Co2 ภายในปี 2573


เอินส์ทแอนด์ยัง หรือ EY บริษัทรวจสอบบัญชีคาดว่า ภายในปี 2578 ราคาคาร์บอนเครดิต คาดเพิ่มขึ้นสู่ระหว่าง 80-150 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน Co2  (ขึ้นอยู่กับการลดลงของราคาต้นทุนการพัฒนาพลังงานสะอาด) และคาดใน 2593 ราคาควรอยู่ระหว่าง 150-200 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน Co2 


และ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD ประมาณการราคาคาร์บอนเครดิตเฉลี่ยอยู่ที่ 147 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน Co2 ภายในปี 2573


ประเดิมขายนักลงทุนรายใหญ่

ทำให้ บลจ. แอสเซท พลัส มองว่าเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโต เพราะถือเป็นยุคต้นของธุรกิจคาร์บอนเครดิต จึงเสนอขาย กองทุนเปิด แอสเซทพลัส โกลบอล คาร์บอนเครดิต ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (ASP-GCC-UI) กองทุนไทย กองทุนแรกที่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าคาร์บอนเครดิตผ่านกองทุน KraneShares Global Carbon Strategy ETF Feeder Fund (กองทุนหลัก) โดยที่มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลักเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80 % ของ NAV


สำหรับกองทุน ASP-GCC-UI สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี IHS Markit Global Carbon Index จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่มีความเข้าใจในการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฟิวเจอร์สเป็นอย่างดี ทั้งนี้สัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน 


กองทุนนี้มีความเสี่ยงในระดับ 8+ กำหนดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่ 25 – 31 ม.ค. 2566 (ทั้งนี้กองทุนอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.) ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนในกองทุน ASP-GCC-UI ได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 500,000 บาท


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X