นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โฮมพอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิกระดับสากล เปิดเผยว่า มองทิศทางธุรกิจปี 2566 จะดีต่อเนื่องจากปี 2565 เพราะคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) จากลูกค้ามีเข้ามาต่อเนื่องจนเต็มถึงเดือนพฤษภาคมปี 2566 แล้ว ขณะที่ปัจจุบันจะเป็นการเจรจาเพื่อรับออเดอร์ผลิตให้เต็มไตรมาส 2 เป็นต้นไป สำหรับลูกค้าที่ออเดอร์สินค้าเข้ามาคือกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม แต่เป็นฐานลูกค้าเดิม
สำหรับกลุ่มสินค้าสโตนแวร์ (Stoneware) ปัจจุบันการขายสินค้ายังเป็นทิศทางที่ดี นอกจากนี้บริษัทจะเดินหน้าขายสินค้ากลุ่มตกแต่งบ้าน หรือที่อยู่อาศัยมากขึ้น สำหรับสินค้าสโตนแวร์มีลักษณะเยื่อแข็งขึ้นและใช้ได้กับโรงแรม ร้านอาหาร และเมื่อบริษัทปล่อยสินค้าออกไปขาย ได้รับการตอบรับดี และมีโปรดักต์มิกซ์มากขึ้น ทำให้วอลุ่มการขายสินค้ากลุ่มนี้มีตัวเลขที่น่าสนใจค่อนข้างมาก แต่อัตรากำไรทำกำไร (มาร์จิ้น) อาจไม่ได้สูงเมื่อเทียบกับสินค้าที่บริษัทผลิตเอง เนื่องจากกลุ่มสโตนแวร์เป็นสินค้าเทรดดิ้ง หรือซื้อมาขายไป
สำหรับเดือนมกราคม 2566 บริษัทมีงานในมือหรือ Backlog ประมาณ 112 ล้านบาท จาก Backlog ที่มีอยู่ คาดจะทำให้รายได้ปี 2566 เติบโตต่อจากปี 2565 ทั้งนี้บริษัทมองอัตรากการเติบโตของรายได้แบบ Conservative หรือโตราว 15-20%
ด้านแนวทางการดำเนินธุรกิจหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย บริษัทจะขยายฐานลูกค้าต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากสามารถเดินทางได้สะดวกกว่าช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับดีมานด์ความต้องการใช้สินค้าบนโต๊ะอาหารเพิ่มขึ้น หลังจากโรงแรม และร้านอาหารสามารถกลับมาเปิดได้เป็นปกติ
อีกทั้งบริษัทจะเดินหน้าขยายสัดส่วนสินค้าแบรนด์เพทาย ซึ่งเป็นสินค้าแบรนด์ของ HPT เอง ให้มีสัดส่วนมากขึ้น โดยปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 15-20% ซึ่งบริษัทมีลูกค้าอยู่ในกลุ่มในประเทศไทย และเอเชีย ส่วนที่เหลือคือการผบิตสินค้าแบรนด์ลูกค้า
นางสาวนิจวรรณ กล่าวต่อว่า บริษัทมีแผนจะขยายเตาเผาเพิ่ม คาดจะขยายในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งการขยายเตาเผาจะเพิ่มกำลังผลิตในครึ่งปีหลัง 2566 ได้อีก 10-15% จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังผลิตอยู่ที่ 3-3.2 ล้านชิ้นต่อปี และจะค่อยๆ ขยายกำลังผลิตเป็น 30-40% ในลำดับต่อไป ทั้งนี้คาดจะใช้งบลงทุนขยายเตาเผาประมาณ 20 ล้านบาท
ส่วนรายได้ปี 2565 มีโอกาสที่ยอดขายจะทะลุเป้า หรือโตเกิน 15-20%เพราะ 9 เดือนแรกบริษัทมียอดขายแล้ว 240.07 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 30.37 ล้านบาท เทียบกับปี 2564 บริษัทมีรายได้ที่ 208.25 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 30.37 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนส่งออกอเมริกา ยุโรป รวมกัน คิดเป็นสัดส่วน 50% รองลงมาคือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และยอดขายในประเทศ รวมถึงประเทศในโซนเอเชียรอบบ้าน
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม