#SSP #ทันหุ้น – SSP ลุยชิงเค้กโครงการ 5 พันเมกะวัตต์ บอสใหญ่ “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” ใส่เกียร์ลุยพลังงานเวียดนาม จับตา PDP8 ตั้งเป้าคว้าไฟฟ้าเข้าพอร์ต 200 เมกะวัตต์ โชว์เงินสดในมือ 5 พันล้านบาท แถมอัตราหนี้สินต่อทุนต่ำ 1 เท่า พร้อมลุยโครงการใหม่
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า แผนธุรกิจการพัฒนาโรงไฟฟ้า บริษัทยังโฟกัสโครงการต่างประเทศ โดยเน้นที่เวียดนาม ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอประกาศแผนการพัฒนาพลังงานแห่งชาติ หรือ PDP8 ตามกำหนดการจ่ายไฟจะอยู่ที่ปี 2568 ดังนั้นคาดเวียดนามจะประกาศแผนพัฒนาโครงการ PDP8 ออกมาภายในปี 2566 เพื่อให้ทันต่อการพัฒนาโครงการ และเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ทันตามกำหนด เบื้องต้นหวังจะได้ใบอนุญาตขายไฟฟ้าที่เวียดนาม 100-200 เมกะวัตต์ โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์) และพลังงานลม
*ลุยเวียดนามเต็มสูบ
ส่วนการที่เวียดนามได้กำหนดกรอบราคาไฟฟ้าสำหรับโครงการพลังงานโซลาร์ และพลังงานลมใหม่ โดยปรับค่าไฟลดลง บริษัทมองว่าไม่กระทบต่อโครงการที่ COD แล้ว เพราะบริษัทเซ็นสัญญาและขายไฟก่อนกำหนดกรอบค่าไฟใหม่ ทั้งนี้โครงการที่ COD แล้ว มีอยู่ 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาด 48 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าโซลาร์ ขนาด 40 เมกะวัตต์
อย่างไรก็ตามแม้กรอบราคาค่าไฟจะลดลง แต่บริษัทจะยังเดินหน้าพัฒนาโรงไฟฟ้าที่เวียดนาม เพราะอัตราการลงทุนลดลงตามเทคโนโลยีและการติดตั้งโรงไฟฟ้า พร้อมกันนี้คาดอัตราผลตอบแทน (IRR) จะใกล้เคียงโครงการเดิม 12-13%
ล่าสุด คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) มีมติอนุมัติให้ SSP เข้าลงทุนใน TEG 5% ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม และเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าในเวียดนาม หรือใช้เงินลงทุนประมาณ 56 ล้านบาท การลงทุนครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพการขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าที่เวียดนามในอนาคตอีกด้วย
*ลุ้นชิงเค้ก 5 พันเมก
ขณะที่โครงการรับซื้อไฟโครงการพลังงาน 5 พันเมกะวัตต์ ในประเทศไทย ที่จะประกาศคุณสมบัติรอบ 2 ในวันนี้ (25 ก.พ.66) บริษัทอยู่ระหว่างติดตามรายชื่อผู้มีคุณสมบัติ หากเป็นไปตามแผนคาดจะจะหนุนให้กำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 500 เมกะวัตต์ ในปี 2568 จากปัจจุบันมีโครงการ COD แล้ว 232 เมกะวัตต์
นายวรุตม์ กล่าวต่อว่า บริษัทมีฐานะทางการเงินที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งจะสนับสนุนให้ฐานเงินทุนมีพร้อม และรองรับแผนการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าทุกรูปแบบ ปัจจุบันบริษัทมีเงินสด 4-5 พันล้านบาท และมีการจัดอันดับทริสเรทติ้งในอันดับเป็น B+ ประกอบกับอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงเหลือ 1 เท่า จากก่อนหน้านี้ที่ 3 เท่า
อีกทั้งบริษัทได้รับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อจาก International Finance Corporation หรือ IFC และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มูลค่ารวม 2.2 พันล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างวงเงินที่กลุ่มบริษัทมีอยู่ในปัจจุบัน และเป็นวงเงินเพิ่มเติมเพื่อสำหรับการลงทุนในอนาคต
*รายได้ปี 66 โต 20%
สำหรับการเติบโตปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 15-20% ต่อจากปี 2565 โดยโครงการที่เพิ่มขึ้นจะมาจากการ COD โครงการโซลาร์รูฟท็อปที่ประเทศอินโดนีเซีย และการปรับขึ้นค่าไฟที่สูงขึ้น นอกจากนี้บริษัทจะมองหาการ M&A โครงการใหม่ที่ COD แล้ว และสร้างมาร์จิ้นให้กับบริษัทได้ทันที รวมถึงธุรกิจใหม่ คาดจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 1/2566
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม