3 โบรกฯมองต่าง ‘KBANK’ แนะกลยุทธ์จับทิศการลงทุน

#KBANK #ทันหุ้น - บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ประเมิน ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK ระบุเชื่อว่า KBANK จะได้รับประโยชน์จาก NIMs ที่เพิ่มขึ้นและการฟื้นตัวของรายได้จากการประกันภัยสุทธิในปี 2566 อย่างไรก็ดี ต้นทุนสินเชื่อน่าจะยังคงสูงเนื่องจากธนาคารจำเป็นต้องสะสางสินเชื่อที่มีปัญหาเพิ่มขึ้น สำหรับในแง่กลยุทธ์ ราคาหุ้น KBANK อาจปรับขึ้นดีกว่าตลาดในระยะสั้น เนื่องจากคาดนักลงทุนเก็งประเด็นกำไรครั้งเดียวจากการถอนการลงทุนในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ส่งผลให้ลดความกังวลในประเด็นต้นทุนสินเชื่อที่สูง สำหรับมุมมอง 12 เดือน เราชอบ BBL (CP 162 บาท, ซื้อ, TP 180 บาท) เนื่องจากงบดุลที่แข็งแกร่งกว่า แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 160 บาท

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ส่อง KBANK ระบุตั้งเป้าสินเชื่อโต 5 – 7% เป็นระดับที่สูงกว่าปี 65 แต่จะหันไปเน้นปล่อย สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่มากกว่าสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อ SME เนื่องจากมองว่ายังมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอยู่ และความไม่แน่นอนนี้เองที่ อาจจะยังทำให้ KBANK มีการตั้งสำรองสูงในปี 66 ถึงแม้ว่าในปี 65 จะมีการ ตั้งสำรองสูงมากไปแล้วก็ตาม แต่การตั้งสำรองจะลดลง และรายได้ดอกเบี้ย ที่จะเพิ่มตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้กำไรยังโต คงราคาพื้นฐาน 162 บาท แนะนำ “ทยอยซื้อ”

ด้าน บล. ทรีนิตี้ ประเมิน KBANK โดยให้เป้าหมายทางการเงินปี 66 จากการประชุมนักวิเคราะห์ ซึ่งตัวเลขส่วนใหญ่สอดคล้องกับประมาณการเดิมที่ฝ่ายวิจัยทำไว้ ส่วนสินเชื่อปี 66 จะเติบโตดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ด้านการสำรองหนี้อาจลดลง แต่ยังอยู่ในระดับสูง สำหรับการขาย KAsset ยังอยู่ระหว่างการพูดคุย แต่จากธุรกรรมที่เคยเกิดขึ้น มองว่าในภาพรวมจะเป็นบวกต่อผลประกอบการ ฝ่ายวิจัยคงราคาเป้าหมาย 167 บาท ราคาหุ้นยังพอมี Upside จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

บล.เมย์แบงก์ แนะนำ “ถือ” ให้ราคาเป้าหมาย 160 บาท

บล.ฟิลลิป แนะนำ “ทยอยซ์้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 162 บาท

บล. ทรีนิตี้ แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 167 บาท