#WAVE #ทันหุ้น - WAVE ภาพชัดรุกอีเวนต์ไร้คาร์บอน ประเดิมผนึก “MVP” จัดงาน Mobile Expo 2023 นำคาร์บอนเครดิตหักล้าง สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน เดินหน้าต่อยอดทุกอีเวนต์-คอนเสิร์ต คาดรายได้ธุรกิจคาร์บอนเครดิต ที่ 200ล้านบาท ตั้งเป้า Top 3 มีพอร์ตเยอะที่สุด ด้าน อบก. พร้อมหนุน MICE ไร้คาร์บอน
นายเจมส์ แอนดริว มอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WAVE เปิดเผยว่า บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท ได้ลงนามความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้การจัดงานหรืออีเวนต์ ในประเทศ ให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral)
โดยบริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด เป็นผู้ให้บริการด้านคาร์บอนเครดิตครบวงจร ให้คำปรึกษาทั้งในส่วนของผู้ซื้อและผู้ขาย เป็นผู้พัฒนาโครงการและจัดหาคาร์บอน เครดิต ทั้งจากพลังงานสะอาดและพลังงานอื่นๆ ในการมีส่วนร่วมแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน จึงเกิดความร่วมมือกันเพื่อความแข็งแกร่งหรือจุดแข็งทางธุรกิจ
ส่วนบริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP เป็นผู้นำและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจการจัดงานอีเวนต์ ที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล พร้อมด้วยประสบการณ์การจัดงานระดับมืออาชีพ เช่น Thailand Mobile Expo และ Thailand Crypto Expo 2022เป็นต้น
“ความร่วมมือในครั้งนี้ มีความมุ่งมั่นด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกัน Wave BCG จึงได้ร่วมลงนาม MOU เพื่อจัดงานต่างๆ ในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ทั้งกลุ่มงานแสดงสินค้าต่างๆ งาน Expo แม้กระทั่งงานคอนเสิร์ต ที่จะช่วยให้คำแนะนำการจัดงานให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอน รวมถึงการจัดหาคาร์บอนเครดิต สำหรับการ Offset เพื่อให้ผู้จัดงานบรรลุเป้าหมายของการเป็น Carbon Neutral Event เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร และเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทย ในการลดก๊าซเรือนกระจกได้มากขึ้น” นายเจมส์ กล่าว
สำหรับความร่วมมือดังกล่าว จะอยู่ภายใต้หลักการคำนวณและประเมินอ้างอิงตามหลัก การขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก.และตรวจสอบโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากวิทยาลัยพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รัตนโกสินทร์ หน่วยงานในกำกับของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ (มทร.)
@MVPรับผิดชอบสังคม
ด้านนายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP กล่าวว่า การจัดงาน Mobile Expo 2023 ดำเนินการโดย MVP ระหว่างวันที่ 16-19กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งเป็นงาน Expo แรกในไทยที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) และ Wave BCG ให้การสนับสนุนการคำนวณ การประเมินการปล่อยคาร์บอน รวมทั้งจัดหาคาร์บอนเครดิต ทั้งนี้ Wave BCG พร้อมสนับสนุนกลุ่มอุตสาหกรรม MICE ที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น ทำให้มีการปล่อยคาร์บอนจากการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การประชุม งานแสดงสินค้า หรืองานเทศกาล ที่ส่งผลกระทบต่อโลก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ไม่ควรมองข้าม
ขณะที่นายเกียรติชาย ไมตรีวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) กล่าวว่า อบก. ได้ให้การการสนับสนุนการจัดอีเวนต์ในครั้งนี้ ให้มีการดำเนินการในรูปแบบที่เป็น Carbon Neutral Event โดยมีการพัฒนาแพลตฟอร์มการคำนวณขึ้นใหม่ มุ่งเน้นให้ใช้งานได้ง่าย แยกตามประเภทของ MICE คือ 1. การจัดประชุม-อบรม-สัมมนา (Meeting) 2. การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentive Travel) 3. นิทรรศการ-แสดงสินค้า (Exhibition) 4. งานเทศกาล (Festival) 5. การแข่งขันกีฬา Sport ของบุคคล (Personal Travel)
ปัจจุบัน อบก. ได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB ในการนำแพลตฟอร์มดังกล่าวข้างต้น ไปทดลองใช้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม MICE ทั้งนี้ในต่างประเทศมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานต่างๆ ให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอนมากขึ้นทั้งผู้จัดจากต่างประเทศ งานเทศกาลดนตรี งานคอนเสิร์ต ก็เริ่มมีมาตรการให้ผู้เข้าร่วมงานปฏิบัติตาม อีกทั้งศิลปินบางวงยังมีการเลือกงานที่จะไปทำการแสดง ที่ต้องเป็นงานจัดในรูปแบบของ Carbon Neutral เท่านั้น
@เป้ารายได้คาร์บอน 200 ล.
นายเจมส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของ WAVE คาดว่าผลประกอบการในปี 2566จะพลิกกลับมามีเทิร์นอะราวด์และมีรายได้รวมทั้งเครือประมาณ 800ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จาก ธุรกิจเวฟ เอ็ดดูเคชั่น หรือบริการฝึกสอนและอบรมทางด้านวิชาภาษาอังกฤษ (Wall Street English) ประมาณ 500-550ล้านบาท ธุรกิจเวฟ เวลบีอิ้ง หรือด้านสุขภาพและกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ที่ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท WAVE Wellbing ประมาณ 150ล้านบาท และ 3.ธุรกิจเวฟ บีซีจี ให้บริการด้านคาร์บอนเครดิตครบวงจร ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท WAVE BCG ประมาณ 200ล้านบาท
ซึ่งปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะ ติด Top 3 สำหรับเป็นผู้ถือครองคาร์บอนเครดิต รองจาก EA และกลุ่มมิตรผล ปัจจุบันบริษัทถือครองคาร์บอนเครดิตรวม 2 ล้านตันคาร์บอนเครดิต คาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถขายได้ไม่ต่ำกว่า 500,000 ตันคาร์บอนเครดิต ทั้งนี้ปัจจุบันผู้ประกอบการที่้ป็นบริษัท SET 50 ติดต่อเข้ามาจำนวนมาก
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม