#ทันหุ้น - "VGI" โชว์ผลการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 3 ปี 2565/66  เติบโตต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการให้บริการและการขายอยู่ที่ 1,377 ล้านบาท  กำไรสุทธิที่ 102 ล้านบาท เติบโตขึ้น 12.4% QoQ และ 51.4% YoY ตามลำดับ ด้วยปัจจัยจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีเอสที่เพิ่มขึ้น ทำให้นักการตลาดและแบรนด์ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศได้หันกลับมาใช้งบโฆษณาอีกครั้ง จึงส่งผลในเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ

คุณเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI กล่าวว่า ผลงานในไตรมาสนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของการให้บริการการตลาดแบบ Offline-to-Online (O2O) โซลูชั่นส์ ผ่านแพลตฟอร์ม Digital OOH ที่ยังคงสามารถสร้างผลงานในเชิงบวกได้อย่างดีเยี่ยม จึงส่งผลให้รายได้ของธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านเพิ่มขึ้น 41.8% YoY คิดเป็น 618 ล้านบาท 

ทั้งนี้ยังพบว่าอัตราการใช้สื่อโฆษณาอยู่ที่ 58% ซึ่งสูงกว่าที่บริษัทฯ คาดการณ์ที่ 50 – 55% โดยการเติบโตดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมถึงได้รับผลบวกจากช่วงไฮซีซั่น (High Season) ในไตรมาสนี้  

ในส่วนของธุรกิจบริการด้านดิจิทัล มีรายได้อยู่ที่ 379 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.5% YoY โดยปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของรายได้ lead generation และค่าคอมมิชชั่น ของบริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด นอกจากกนี้ผลการดำเนินงานของกลุ่มแรบบิทยังได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสารของรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งสะท้อนจากการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขายบัตรแรบบิทและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ปัจจุบันจำนวนบัตรแรบบิทมีจำนวนทั้งสิ้น 16.0 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 8.1% YoY ในขณะที่ แรบบิท ไลน์ เพย์ มีจำนวนผู้ใช้งานสูงถึง 10.2 ล้านราย เพิ่มขึ้น 9.9% YoY 

ด้านธุรกิจการจัดจำหน่าย มีรายได้อยู่ที่ 380 ล้านบาท ลดลง 44.3% YoY สาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์ของ Fanslink ที่เลือกขายผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงกว่าเดิม  นอกจากนี้ในไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังมีการรับรู้เงินปันผลรับจาก บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน)

สุดท้ายนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการในครึ่งปีแรกของปี 2565/66 ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 447.8 ล้านบาท โดยบริษัทฯ กำหนดให้วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) และจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในวันที่ 14 มีนาคม 2566

** 2 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน

บล.หยวนต้า ส่อง VGI รายงานขาดทุนปกติ 3Q65/66 ที่ 34 ลบ. (-76.8% QoQ, -68.3% YoY) ขาดทุนต่ำกว่าประมาณการของฝ่ายวิจัย 48.2% จากต้นทุนที่ลดลงมากกว่าคาด เนื่องจากการลดลงของรายได้ธุรกิจจัดจำหน่ายที่มีต้นทุนสูง

ผลการดำเนินงานเริ่มกลับมาฟื้นตัวในช่วง 3Q65/66 โดยเฉพาะธุรกิจหลักอย่างสื่อโฆษณานอกบ้าน (OOH) โดยคาดผลประกอบการจะฟื้นตัวตัวต่อเนื่องใน 4Q65/66 ส่วนธุรกิจของบริษัทร่วม KEX เป็นเพียงธุรกิจเดียวที่น่าเป็นห่วงจากการแข่งขันรุนแรงทางด้านราคา ต้นทุนน้ำมัน และการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคเป็น Offline มากขึ้น โดยปี 2565 KEX รับรู้ผลขาดทุนที่ 2.5 พันลบ. (VGI ถือหุ้นที่สัดส่วนราว 18%)

ส่วนปี 2565/66 (สิ้นสุด มี.ค.66) ฝ่ายวิจัยคาด VGI จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 176 ล้านบาท จากปีก่อนหน้าขาดทุนอยู่ 120 ล้านบาท หากไม่นับรวมรายการพิเศษจะมีผลขาดทุนปกติ 203 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุน 281 ล้านบาท โดยมีปัจจัยบวก ได้แก่ 1) การฟื้นตัวธุรกิจสื่อโฆษณา OOH คาดเม็ดเงินโฆษณากลับเข้ามามากขึ้น ตามการฟื้นตัวของ BTS ridership ที่เพิ่มขึ้นมาเกือบเทียบเท่ากับช่วงก่อน COVID-19 ซึ่งเป็นบวกโดยตรงต่อรายได้สื่อโฆษณา OOH 2) การรับรู้รายได้เต็มปีจาก Fanslink และ 3) ธุรกิจ Digital Services ค่าธรรมเนียมและการทาธุรกรรมของบัตร Rabbit ที่เพิ่มขึ้นจากการเดินทางที่จะกลับมาเป็นปกติมากขึ้น

ทั้งนี้ คาดผลประกอบการปี 2566/67 จะพลิกกลับมามีกำไรปกติ 649 ล้านบาท จาก 1) Organicgrowth คาดอุตสาหกรมสื่อโฆษณา OOH เติบโตต่อเนื่องราว 20% YoY 2) ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมพลิกจากขาดทุนกลับมามีกำไร จากการเปิดประเทศทำให้ปริมาณขนส่งเพิ่มขึ้นและสงครามราคาน่าจะเริ่มลดลง 3) รายได้ที่เติบโตตามการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู

ฝ่ายวิจัยคาดจะเห็นการฟื้นตัวของผลประกอบการตั้งแต่ 4Q65/66 และปี 2566/67 คาดจะพลิกฟื้นกลับมามีกำไร ประเมินมูลค่าเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566/67 ที่ 4.95 บาท โดยอิงวิธี Sum of the parts (SOTP) โดยราคาหุ้น VGI ในรอบสามเดือนปรับเพิ่มขึ้นกว่า 23.8% สะท้อนการคาดหวังการฟื้นตัวไปแล้วพอสมควร จึงคงคำแนะนำ “TRADING”

ด้าน บล.กสิกรไทย มอง VGI  ไตรมาส 3QFY66 ขาดทุนปกติที่ 68.2 ลบ. เทียบกับพรีวิวกำไรที่ 57 ลบ. ของฝ่ายวิจัยจากผลขาดทุนจากบริษัทย่อย จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.04 บาท/หุ้น

ธุรกิจหลักของ VGI ยังคงมีแนวโน้มสดใส แต่คาดบริษัทย่อยจะสร้างผลขาดทุนต่อเนื่องมาให้แก่ VGI คงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 4.45 บาท จากการประเมินมูลค่าที่แพงด้วย PER ปี FY2566/67 ที่ 93.5 เท่า และราคาหุ้นที่แซงหน้ากำไร

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1