เอไอเอตัวแม่โชว์งบแกร่งปี65 ผุดสาขาจีนเพิ่ม-ไทยโดดเด่น

#เอไอเอ #ทันหุ้น กลุ่มบริษัทเอไอเอ โชว์ผลงานสุดแกร่งในปี 65 โดยเฉพาะในครึ่งปีหลัง ที่มีสัญญาณบวกจาก 5 ตลาดหลัก เอไอเอ ที่ผลการดำเนินงานฟื้นตัวชัด หลังคลายกังวลโควิด ส่งผลให้จ่ายผันผลได้เพิ่มขึ้น ปูพรหมขยายสาขาเพิ่มในจีนแผ่นดินใหญ่ ปลื้มผลงานในไทยโตทุกช่องทาง แถมVONB เพิ่มขึ้น

เอไอเอตัวแม่โชว์งบแกร่งปี65 ผุดสาขาจีนเพิ่ม-ไทยโดดเด่น

นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า กลุ่มบริษัทเอไอเอ มีผลประกอบการทางการเงินที่มั่นคงภายใต้ความท้าทายของตลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งของรูปแบบดำเนินงานที่แข็งแกร่งของเอไอเอ ซึ่งเป็นผลจากการขายในช่องทางที่แตกต่างและข้อเสนอเฉพาะบุคคลบริษัท

ตัวชีวัดกำไรปรับตัวดี

แรงขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนได้ลดลงและผู้คนสามารถกลับมาทำกิจกรรมได้ปกติอีกครั้ง ขณะที่มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ตลอดทั้งปี จำนวน 3,092 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 5% อย่างไรก็ตามกลับมาเติบโต 6% ในช่วงครึ่งปีหลังจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ 5 ตลาด ซึ่งทำให้บริษัทมีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ในเชิงบวก

“สถานะทางการเงินของเรายังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าตลาดทุนจะผันผวนอย่างมาก โดยเงินกองทุนส่วนเกินเพิ่มขึ้นเป็น 23.7 พันล้านเหรียญสหรัฐก่อนคืนทุนให้แก่ผู้ถือหุ้น และวิธีผลรวมเงินกองทุนของแต่ละประเทศ (Group LCSM) ของกลุ่มบริษัท ซึ่งมีอัตราส่วนถึง 283%สำหรับส่วนทุนตามมูลค่าธุรกิจประกันภัย (EV Equity) เพิ่มขึ้น 6% ในปี 2565 เป็น 77.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนคืนทุน 5.8 พันล้านเหรียญสหรัฐให้แก่ผู้ถือหุ้นผ่านโครงการซื้อหุ้นคืนและการจ่ายเงินปันผล”

โดยคณะกรรมการบริหารได้พิจารณาจ่ายเงินปันผลรอบสุดท้ายที่ 113.40 เซนต์ฮ่องกงต่อหุ้น ซึ่งจะทำให้เงินปันผลรวม เพิ่มขึ้น 5.3% อยู่ที่ 153.68 ฮ่องกงเซนต์ต่อหุ้น โดยเป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผล

ปูพรมขยายตลาดจีน

เอไอเอ ประเทศจีน กลับมาเติบโตในเชิงบวกช่วงครึ่งหลังของปี 2565 โดยมีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตเพิ่มขึ้น 3% ซึ่งหลังจากการเปิดประเทศจีนแผ่นดินใหญ่อีกครั้ง เราได้เห็นแรงขับเคลื่อนในธุรกิจใหม่ของเราฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและกลับมามีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ในเชิงบวกในช่วงสองเดือนแรกของปี 2566

“เรายังคงดำเนินกลยุทธ์การขยายธุรกิจของเอไอเอ ประเทศจีนต่อไป โดยคว้าโอกาสในการเติบโตใหม่โดยเพิ่มจำนวนต้นแบบพรีเมียร์เอเจนซีที่มีความแตกต่างและมีคุณภาพสูงของเราในภูมิภาคใหม่ เรามีความก้าวหน้าอย่างมากในช่องทางตัวแทนด้วยตัวเลขมูลค่าธุรกิจใหม่ที่เติบโตเพิ่มขึ้น 50% และจำนวนตัวแทนเพิ่มขึ้น 31% จากมณฑลเทียนจิน ฉือเจียจวง เสฉวน และหูเป่ย์”

และในเดือนมกราคม 2565 กลุ่มบริษัทเอไอเอได้เปิดตัวการขยายธุรกิจเพิ่มเติมในหูเป่ย์ และยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมขยายสาขาใหม่ในมณฑลเหอหนาน รวมถึงเรื่องความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ของเอไอเอ ประเทศจีนในการขายประกันชีวิตผ่านธนาคารพาณิชย์กับ Postal Savings Bank of China

เอไอเอ ฮ่องกง รายงานตัวเลขมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ในปี 2565 เติบโตได้ดีจากช่องทางตัวแทนและพันธมิตรทางธุรกิจ โดยสาขามาเก๊าได้รับประโยชน์จากการกลับมาของ กฎอนุญาตการท่องเที่ยวแบบส่วนบุคคลในจีน (Individual Visit Scheme) ทำให้มูลค่าธุรกิจใหม่มาจากการขายประกันภัยให้นักเดินทางชาวจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้นสามเท่าในปี 2565 คิดเป็นสัดส่วนกว่า 10% ของมูลค่าธุรกิจใหม่ทั้งหมดของเอไอเอ ฮ่องกง ซึ่งการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจใหม่ยังคงดำเนินต่อไปในตลอดสองเดือนแรกของปี 2566

ครึ่งหลังสาขาในไทยแรง

ขณะที่ เอไอเอ ประเทศไทย สร้างการเติบโตในมูลค่าธุรกิจใหม่ตลอดทั้งปีอยู่ที่ 5% โดยได้รับแรงหนุนจากช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ที่มีการเติบโตถึง 19% บริษัทมองเห็นกิจกรรมการขายที่เพิ่มขึ้นจากทั้งช่องทางตัวแทน และแบงก์แอสชัวรันส์ ซึ่งช่วยสร้างผลตอบแทนจากธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี โดยช่องทางตัวแทนของเอไอเอในไทยยังคงเป็นผู้นำตลาดในปี 2565 ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการสรรหาตัวแทนใหม่ ซึ่งมีส่วนสนับสนุนให้เรามีจำนวนตัวแทนที่สร้างผลงานได้เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2564

ส่วน เอไอเอ สิงคโปร์ รายงานมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มสูงขึ้น7% ในช่วงครึ่งปีหลัง สะท้อนถึงยอดขายที่มีการฟื้นตัว สำหรับ เอไอเอ มาเลเซีย สร้างการเติบโตในมูลค่าธุรกิจใหม่ได้ถึง 15% ในปี 2565 และมีการเติบโตเทียบปีต่อปีสูงถึง 26% มาจากช่วงครึ่งปีหลังของปี ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของเรามาจากทั้งฝั่งตัวแทนและช่องทางพันธมิตรธุรกิจ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการปรับตัวใช้เครื่องมือดิจิทัลและการเข้าถึงผู้มุ่งหวังใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัล

มูลค่าธุรกิจใหม่ในตลาดอื่น ๆ ลดลง 12% ในปี 2565 ในขณะที่ในประเทศอินเดีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา และไต้หวัน (จีน) เติบโตสองหลักในช่วงครึ่งหลังของปี ทำให้ชดเชยการชะลอตัวของธุรกิจในประเทศออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และเวียดนาม ทั้งนี้ เอไอเอ ทาทา ประกันชีวิต ที่บริษัทได้ร่วมทุนในประเทศอินเดีย สร้างการเติบโตในมูลค่าธุรกิจใหม่ได้ถึง 52% จากทุกช่องทางการขาย และถูกจัดอันดับให้เป็นบริษัทประกันชีวิตเอกชนอันดับ 3ของประเทศ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565