#WHA #ทันหุ้น - WHA แย้มค่ายรถอีวีดีลซื้อที่ดินกว่า 300 ไร่ แถมมีโอกาสดึงกลุ่มซัพพลายเชน แบตเตอรี เข้ามาลงทุนเพิ่ม เชื่อเป็นเทรนด์ที่ต้องผลักดัน ขณะที่ภาครัฐให้การสนับสนุนดันไทยเป็นฮับอีวี มั่นใจยอดขายที่ดิน 1,750 ไร่ คงแผนลงทุน 5 ปี (ปี 2566-2570) 6.85 หมื่นล้านบาท โบรกมอง ในปี 2566 มีกำไรสุทธิที่ 3.8 พันล้านบาท โตต่อเนื่อง รับผลดีจากนโยบายหนุนการลงทุนในอีวี ราคาเป้าหมาย 4.50 บาท
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักลงทุนให้ความสนใจที่จะซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ทั้งนักลงทุนขาวจีน และชาติอื่น ขณะนี้มีการเจราเจรจาไม่ต่ำกว่า 300 ไร่ และยังมีการเจรจากับผู้ประกอบการที่เป็นซัพพลายเชน
*ลูกค้าดีลซื้อที่ดินเพิ่ม
รวมถึงผู้ผลิตแบตเตอรีด้วย ที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพราะมองเห็นโอกาสและศักยภาพ ที่ประเทศไทยจะเดินหน้าไปสู่การเป็นศูนย์กลางรถอีวี (ฮับอีวี) หลังจากที่ค่ายรถใหญ่อย่าง BYD เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย ยิ่งตอกย้ำความพร้อมของประเทศไทย และการที่ภาครัฐมีการผลักดันนโยบายต่างๆ ในการสนับสนุนการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในไทย จะเป็นอีกปัจจัยในการเรียกความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนด้วย
“ตอนนี้นักลงทุนเข้ามาเจรจาซื้อที่ดินจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมอีวี ที่มีความต้อองการเข้ามาลงทุนไทย ทั้งผู้ที่ผลิตรถอีวี ซัพพลายเชน รวมไปถึงแบตเตอรี เพราะเชื่อมั่นว่าไทยมีศักยภาพในการเป็นฮับอีวีด้วย ดังนั้นปีนี้จะเห็นการเข้ามาลงทุนจำนวนมาก ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ ก็ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนด้วยเช่นเดียวกัน” นางสาวจรีพร กล่าว
*เป้าขายที่ดิน 1,750 ไร่
พร้อมกันนี้ยังคงเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ที่ 1,750 ไร่ ทั้งในไทยและเวียดนาม และยังคงแผนการลงทุนภายใน 5 ปี (2566-2570) ไว้ที่ 6.85 หมื่นล้านบาท ได้แก่ ธุรกิจโลจิสติกส์ จำนวน 1.7 หมื่นล้านบาท ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม (ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์) จำนวน 2.9 หมื่นล้านบาท ธุรกิจสาธารณูปโภคน้ำ-ไฟฟ้า (WHAUP) จำนวน 1.85 หมื่นล้านบาท และธุรกิจดิจิทัล (ดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล)จำนวน 4,000 ล้านบาท
*กำไรปี 66 เติบโตดี
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง WHA ว่า ปี 2566 ยังเติบโตดี แม้ไม่มีรายใหญ่อย่าง BYD คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 4.50 บาท จาก 1.โอกาสที่จะปรับเป้า Presale ขึ้นจากเดิมปี 2566 ที่ 1.75 พันไร่ (เทียบกับปี 2565 ที่สูงถึง 1.9 พันไร่ เนื่องจากมีลูกค้ารายใหญ่อย่าง BYD จำนวน 600 ไร่) จากกลุ่ม EV Cluster ที่เร่งการลงทุน, 2.GPM นิคมจะเพิ่มขึ้น ตามการปรับราคาขายขึ้นในช่วงที่มี Demand สูง
3.ผลการดำเนินงานปี 2566 ที่จะยังขยายตัว คงกำไรปกติปี 2566 ที่ 3.86 พันล้านบาท (+18% จากปีก่อน) จากยอดTransfer ที่ยังสูงถึง 1.3 พันไร่ (แม้จะไม่มีลูกค้ารายใหญ่อย่าง BYD ที่โอนในปี 2565 ที่ 500 ไร่) และยอด Presale ที่ทรงตัวสูงที่ 1.6 พันไร่ จาก EV Cluster ที่เร่งการลงทุนมากขึ้น ราคาหุ้นใกล้เคียงกับ SET ใน 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามเราคงแนะนำ “ซื้อ” จากยอด Presale ที่จะเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงช่วง 2-3 ปี จากการเร่งลงทุนในอุตสาหกรรมรถ EV ทั้งผู้ผลิตรถ และแบตเตอรี และได้ผลบวก China Relocation ที่จะยังคงย้ายฐานการผลิตมาภาคพื้น SEA รวมทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังเทรดต่ำเพียง P/BV ปี 2566 ที่ 1.7 เท่า (-1SD Below 5-yr Average)
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม