KS (W)hole in ONE : ส่องหุ้นเด่น KLINIQ-CPALL

#หุ้นไทย #KLINIQ #CPALL #ทันหุ้น

วันจันทร์ : ติดตาม ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของเยอรมนี (ปีต่อปี) (ก.พ.) ตลาดคาด 16.4%YoY ติดตามรายงานตลาดมุ่งเน้นของธนาคารกลางบราซิล

วันอังคาร : ตลาดหุ้นญี่ปุ่น หยุดทำการเนื่องจากวันวสันตวิษุวัต, ตลาดหุ้นแอฟริกาใต้หยุดทำการเนื่องจากวันสิทธิมนุษยชน ติดตามความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีจากสถาบัน ZEW (มี.ค.) ตลาดคาด 22.0 จุด, ติดตาม ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (ก.พ.) ตลาดคาด 4.17 ล้านหลัง

วันพุธ : ติดตาม การประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี ของสหรัฐ, ติดตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ก.พ.)ของอังกฤษตลาดคาด 10.3%YoY ติดตามรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (Copom) ของธนาคารกลางบราซิล

วันพฤหัสบดี ติดตามผลการประชุม Fed , ติดตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (มี.ค.) ฝั่งยุโรป

วันศุกร์ : ติดตามยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เดือนต่อเดือน) (ก.พ.) ของสหรัฐ ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มี.ค.)ของสหรัฐ

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย :

KS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้จะแกว่งตัวในกรอบ 1,535 – 1,585 จุด ประเมินตลาดจะยังแกว่งตัว Sideway ในช่วงครึ่งสัปดาห์แรก เพื่อรอดูการประชุม Fed วันที่ 22 มี.ค.2022 ส่วนครึ่งสัปดาห์หลังประชุม Fed ทิศทางตลาดหุ้นไทยจะขึ้นหรือลงขึ้นกับผลประชุม Fed โดยล่าสุด Terminal Rate ของ Fed ถูกปรับขึ้นเล็กน้อยเหนือ 5.0% เรายังคงมุมมองคาด Fed เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25bps ที่ 5.0% โดย Key สำคัญเราให้น้ำหนักไปที่ Dot plot คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของ Fed จะออกมาในโทน Dovish มากขึ้นหรือไม่ หรือจะยัง Hawkish เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ แม้จะมีปัญหาฝั่งภาคธนาคาร อาทิ SVB เชื่อว่า Fed จะชั่งน้ำหนักเลือกระหว่างเงินเฟ้อสหรัฐ ที่ยังกดไม่ลงกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน

กลยุทธ : โดยกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นช่วงที่ตลาดผันผวน แนะนำ แนะนำให้อยู่กับหุ้น Defensive อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ BGRIM และกลุ่มโรงพยาบาล อาทิ BDMS กลุ่มขายสินค้าจำเป็น Consumer staple อาทิ CPALL กลุ่มอสังหา อาทิ ORI หรือแนะนำลงทุนในหุ้นกลุ่ม Quality Growth อาทิ KLINIQ และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้น อาทิ PSL

ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังแกว่งในกรอบ 1,535 – 1,585 จุด

Top pick :

Ø KLINIQ (TP 48.10 บาท) คาดกำไรปี 2023 เติบโต 30% YoY หนุนโดยการเปิดประเทศ และการขยายสาขาใหม่ 10 สาขาเพื่อรองรับอุปสงค์ลูกค้าไทยและลูกค้าต่างประเทศ ขณะที่ศูนย์ศัลยกรรมจะเป็น Growth driver ตัวใหม่

Ø PSL (TP 18.50 บาท) คาดกำไรแตะระดับต่ำสุดในไตรมาส 1/2566 จากผลของ Low season และฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 2/2566 จากการเปิดประเทศจีน มาตรการกระตุ้นศก. ขณะที่สัปดาห์นี้ ปธน. สีจิ้นผิงจะเดินทางเยือนรัสเซีย หากเกิดการเจรจาหยุดยิงคาดจะเป็น Sentiment บวกกับเรือเทกองจากธีมบูรณยูเครน

KS Research

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย