ส่องหุ้น BJC โบรกฯคาดกำไรโต บิ๊กซี เด่น !

#ทันหุ้น - บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ส่องหุ้น BJC หรือ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ระบุ กำไรจะถูกขับเคลื่อนจากการบริโภคและการท่องเที่ยว ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ ซื้อ BJC โดยเชื่อว่าการฟื้นตัวของการบริโภคและการท่องเที่ยว รวมทั้งการเลือกตั้งจะส่งผลบวกต่อทั้งธุรกิจบรรจุภัณฑ์ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค และ ธุรกิจบิ๊กซี

ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามยอดขายที่เติบโต อีกทั้งต้นทุน พลังงานและวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง คาดกำไรปีนี้เติบโต 15% YoY หุ้นซื้อขายที่ PE 25.9 เท่า หรือ-1 SD โดยมีอัพไซด์20% เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย 44.25 บาท (DCF, WACC 7.2%, G.3%)

**บิ๊กซีจะเติบโตทั้งยอดขายและรายได้ค่าเช่า

ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ SSSG ของบิ๊กซีในปีนี้ที่ 7% จากการเติบโตของการบริโภคและการ ท่องเที่ยว สาขาที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวซึ่งคิดเป็น 25% ของยอดขายบิ๊กซีใน Q4/65 ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ปีนี้จะเปิดสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ต 3 สาขาซูเปอร์มาร์เก็ต/ค้าส่ง12- 13 สาขา และมินิบิ๊กซี200 สาขา

ฝ่ายวิจัยคาดอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 60 bps YoY เป็น 17.7% จากการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงและเพิ่ม House brand เป็นเกือบ 16% จาก 14.9% ในปี 2565 รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพด้านขนส่งสินค้า รายได้ค่าเช่า คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12% YoY เป็น 1 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 87% ของรายได้ค่าเช่า ก่อนโควิด อัตราการเช่าพื้นที่ของบิ๊กซีคาดว่าจะเพิ่มเป็น 90% จาก 88.2% ในปี 2565

**ยอดขายและอัตรากำไรของกลุ่มบรรจุภัณฑ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

คาดว่ายอดขายกลุ่มบรรจุภัณฑ์เติบโตดีต่อเนื่องเป็นผลจากการฟื้นตัวของการบริโภค ในไทยและเวียดนาม ประกอบกับกระแสการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่ง รวมถึงการผลิตขวดแก้วน้ำหนักเบาและกระป๋องอลูมิเนียมขนาดใหม่

ขณะที่กลุ่มลูกค้า ของ BJC ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มมีแนวโน้มยอดขายฟื้นตัวทั้งในประเทศและส่งออก ในด้านต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบคาดว่าจะลดลงตามราคาก๊าซธรรมชาติและ อลูมิเนียมที่ปรับตัวลดลง ส่วนกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคได้ผลบวกจากการฟื้นตัวของ การบริโภคเช่นกัน รวมทั้งการออกสินค้าใหม่และต้นทุนวัตถุดิบลดลง

**คาดกำไรปีนีเติบโต 15% จากทุกกลุ่มธุรกิจ

ฝ่ายวิจัย ประเมินว่ายอดขายเพิ่มขึ้น 12% เป็น 1.69 แสนล้านบาทในปี2566 จากการเติบโต ของทุกกลุ่มธุรกิจไม่ว่าจะเป็น บิ๊กซี กลุ่มบรรจุภัณฑ์กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่ม เครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์ โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 70 bps YoY เป็น 19.1% จากบิ๊กซีกลุ่มบรรจุภัณฑ์และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ในด้านค่าใช้จ่ายคาด ว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 20.2% จาก 19.9% ในปี2565 จากค่าไฟและค่าใช้จ่ายด้าน พนักงานเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรปีนี้เติบโต 15% YoY เป็น 5.7 พันล้านบาท

ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าปี 66 ที่ 44.25 บาท **