#INET #ทันหุ้น-INET มองดีมานด์คลาวด์ โซลูชันส์ และ Digital Platform ปี 66 ขยายตัวสูง เดินหน้าขยายการให้บริการทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติม ใส่เกียร์ Digital Platform เต็มสูบ วางเป้ารายได้ปี 66 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน เดินหน้าดัน 2 บ.ย่อยเข้าระดมทุนในปี 67-68

นายวัลล์ชัย เวชชีวะดำรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจและอุตสาหกรรมรมในปี 2566 คาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการลงทุนของธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้งานของบริการคลาวด์ โซลูชันส์ (Cloud Solutions) และในเรื่องของ Digital Platform ที่เพิ่มมากขึ้น

อ้างอิงจากการ์ทเนอร์ในช่วงเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าการเติบโตของ Data Center, Public Cloud และ IT Service ตลาดโลกจะมีการขยายตัวอยู่ที่ระดับ 0.7%, 20.7% และ 5.5% ตามลำดับ ในขณะที่ตลาดในประเทศไทยจะมีการขยายตัวที่สูงกว่าตลาดโลกค่อนข้างมากอยู่ที่ระดับ 5.5%, 31.8% และ 10.4% ตามลำดับ เนื่องจากการลงทุนดังกล่าวในแถบเอเชียเมื่อก่อนจะมุ่งเน้นไปยังสิงคโปร์ แต่ด้วยระเบียบและการควบคุมใหม่ทำให้เม็ดเงินลงทุนไหลออกมาไทยแทน

รายได้โต15%

ในปี 2566 บริษัทคงกลยุทธ์ Secure Market เน้นการรักษาฐานลูกค้ากลุ่ม Cloud และเป็นผู้ให้บริการด้านแพลตฟอร์มอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยองค์กรปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation Tooling) โดยบริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมปีนี้ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อนที่ระดับ 2,067.17 ล้านบาท ซึ่งแรงขับเคลื่อนหลักกว่า 30% มาจาก Cloud Solutionsในส่วนของบริการ Digital Platform มีโอกาสเติบโตอย่างมาก หลายบริษัทเดินหน้าในการนำไอทีเข้ามาใช้งานภายในองค์กรเพื่อสนับสนุนการทำงานมากขึ้น

"ภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 1/66 มองว่าจะมีการเติบโตที่ดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนประมาณ 5-8% โดยนับตั้งแต่ตั้งปีจนถึงปัจจุบันบริษํทยังคงได้รัยสัญญาเช่าซื้อจากทั้งลูกค้ารายเดิมที่ต่อสัญญา และจากลูกค้ารายใหม่เข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้าง Recyrring income ให้กับบริษัทได้เพิ่มมากกว่า 100 ล้านบาทต่อเดือน หรือตกเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท"นายวัลล์ชัย กล่าว

ใส่เกียร์ลุยงานรัฐ

โดยที่ผ่านมาในส่วนของ Digital Health Platform บริษัทมีเป้าหมายจะเข้าไปให้บริการแก่โรงพยาบาลรัฐ จำนวน 901 แห่งทั่วประเทศ ปัจจุบันในด้านของ Telemedicine มีการใช้งานระบบแล้ว 24 แห่ง และยังมีที่อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 149 แห่ง ส่วน Medical Delivery มีโรงพยาบาลที่ขึ้นในระบบอยู่ระหว่างทดลองใช้งานแล้วประมาณ 93 แห่ง และมีการใช้งานแล้ว 18 แห่ง ซึ่งมียอด Transaction การส่งยาอยู่ที่กว่า 2,500Transactionsต่อเดือน

ขณะที่ Education Platform ที่ประกอบด้วยบริการ Digital Transcript, E-Verify และ Job Matching ที่มีจุดเชื่อมต่อของเครือข่ายบนอินเตอร์เน็ต (Gateway Verify) ในระบบกว่า 15.17 ล้าน Transaction ต่อปี ในตอนนี้ Digital Transcript มีจำนวนมหาวิทยาลัยใช้งานจริงอยู่ที่ 19 แห่ง มียอด Transaction 8,400 ใบต่อเดือน ส่วน E-Verify มีจำนวนการใช้บริการพร้อมใช้อยู่ที่ 6 แห่ง ปัจจุบันมียอด Transaction อยู่ที่ 1,600 ใบต่อเดือน บริษัทมีเป้าหมายขยายไปยังสถาบันอุดมศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนในไทย 171 แห่ง

ด้าน E-Service Platform (กลุ่ม Enterprise) ปัจจุบันมีการให้บริการ e-tax, e-stamp และ e-factoring เป็นต้น โดยมีขนาดตลาดทั้งในส่วนของบริษัทและนิติบุคคลที่จดทะเบียนผู้เสียภาษีกับกรมสรรพากร จำนวน 5.8 แสนราย ปัจจุบันผู้ประกอบการที่ใช้ e-tax จำนวน 1,941 ราย (0.33%) โดยมีผู้ประกอบการที่ใช้ E-Tax ใช้งานอยู่กับ INET คิดเป็น 44.77% จำนวน 10 ล้าน Transactions / เดือน นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งหลังปี 2566 หลังการเลือกตั้งแล้วเสร็จบริษัทมีแผนจะเปิดให้บริการ e-withholding Tax

พร้อมกันนี้ ในปี 2566 บริษัทมีการวางแผนยุทธศาสตร์การขยายกองทรัสต์อย่างต่อเนื่อง โดยการเตรียมขยายการลงทุนใน IDC3 Phase 2 ในช่วงปลางปี 2566 เพื่อรองรับการ เติบโตของตลาด Cloud และนำทรัพย์สินขายเข้ากองทรัสต์เพิ่มเติม และปรับสัญญาเช่า กลับมา 25ปี เป็น 30 ปี(Freehold) คาดว่าปีนี้จะขยายกองทรัสต์เพิ่มอีกราว 2-3 พันล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทยังเดินหน้าในการนำ บริษัท วัน อิเล็กทรอนิกส์ บิลลิ่ง จำกัด (E-Tax Invoice Platform) เข้าเทรดในกระดาน LiVE Exchange ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ในส่วนของ บริษัท ไอเน็กซ์บรอดแบนด์ ก็เตรียมที่จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในช่วงครึ่งแรกปี 2568 ส่วนบริษัทอื่นๆ ก็จะทยอยตามมา