สรุปนโยบายทางเศรษฐกิจ พรรคกระแสแรง ขั้วการเมืองหลัก

#Investment-Focus by KTAM #ทันหุ้น วันที่ทุกคนตั้งตารอที่จะออกมาใช้สิทธิ์อีกครั้ง และเป็นการรอที่รอมานานกว่า 4 ปี ซึ่งทำให้เราเห็นการตื่นตัวของคนไทยที่มีแนวโน้มให้สนใจทางการเมืองเพิ่มมากขึ้นในทุกช่วงอายุ และทำให้เราได้ดูรายการต่างๆ ที่เอาผู้สมัครออกมาให้ข้อมูลแทบจะทุกวันจนเริ่มหาอะไรดูได้มากขึ้นกว่าละครหลังข่าวประจำวัน หรือบางคนอาจจะถือว่าได้ดูละครบทใหญ่ ซึ่งอย่างน้อยก็ทำให้เรามีทางเลือกในการเสพข่าวมากขึ้นกว่าที่จะมีแค่ข่าวชาวบ้าน และข่าวตาม social media ทั่วๆ ไป

หากเรามาไล่ดูนโยบายทางเศรษฐกิจของแต่ละพรรคการเมือง และจัดกลุ่มออกมาเป็น 2-3 กลุ่ม คือ

กลุ่มที่ 1 ฝ่ายรัฐบาลเดิม ประกอบไปด้วย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา หากกลุ่มนี้ยังจับมือกันได้ ซึ่งหากดูตามตารางด้านล่าง จะพบว่า กลุ่มนี้จะเน้นกลุ่มเปราะบางผู้สูงอายุ กลุ่มครอบครัวที่มีบตุรใหม่และผู้พิการ โดยจะเน้นให้การสนับสนุนเงินช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้น และนโยบายที่เหมือนๆ กัน คือ เพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการ และเน้นไปที่ SME พักหนี้ เป็นหลัก

กลุ่มที่ 2 ฝ่ายค้านเดิม ได้แก่ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ซึ่งนับว่าเป็น 2 พรรคหลักที่กระแสแรง เรียกว่าลดแลกแจกแถมไม่แพ้กัน แจกไม่ยั้ง เพิ่มไม่น้อย และนโยบายที่คล้ายคลึงกัน คือ เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ และเน้นการท่องเที่ยว เป็นหลัก

กลุ่มที่ 3 เหล้าเก่าในขวดใหม่ ได้แก่ พรรคไทยสร้างไทย พรรคชาติพัฒนากล้า โดยพรรคไทยสร้างไทย เน้นไปที่การพักหนี้ เพิ่มเงินสนับสนุน คล้ายฝ่ายรัฐบาลเดิม ส่วนพรรคชาติพัฒนากล้า เน้นไปที่สร้างงาน กระจายเศรษฐกิจไปภูมิภาคและการท่องเที่ยว คล้ายฝ่ายค้านเดิม

จากข้อมูลทั้งหมดสามารถสรุปได้ว่า แต่ละกลุ่มที่ออกนโยบายมาตามหน้าข่าวอย่างน้อยก็ทำให้เราเห็นว่า ความเปราะบางของการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ ยังคงต้องเน้นการพึ่งพาช่วยเหลือจากภาครัฐ ทุกกลุ่มขั้วการเมืองรู้ว่าต้องช่วยเหลือ SME ให้แข่งขันได้มากกว่าปัจจุบัน การท่องเที่ยงยังคงเป็นจุดสำคัญที่ทุกพรรคมองเห็นว่าต้องเน้นพัฒนาเพราะถือเป็นจุดแข็งของประเทศ

แต่ทั้งหมดนี้ยังคงต้องดูว่าละครฉากใหญ่นี้ จะมีวลีเด็ดส่งท้าย ข้ามขั้ว หรือปิดฉากบทพระเอกเดิมลง หรือจะมี ครอบครัวพระเอกดังในอดีต หรือดารานำคนใหม่ จะเข้ามาแย้งปาดหน้ารับบทแสดงนำแทนในรอบนี้ แต่ทั้งหมดนี้โดยส่วนตัวก็ยังมองว่า ต้องดูกันยาวๆ และวนเวียนนี้ไม่เคยหายจากการเมืองไทย เพียงแค่มันจะกลับมาวังวนเดิมเร็วแค่ไหน ต้องดูกันในฉากต่อไป!!

คอลัมน์: Investment-Focus by KTAM

โดย: ชัชพล สีวลีพันธ์
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ บลจ. กรุงไทย